หยาดน้ำค้างพืชแปลกๆ สร้างสมดุลธรรมชาติ
หยาดน้ำค้าง ถ้าใครได้ยินก็คงคิดว่าเป็นหนึ่งในชื่อของพืชพรรณหรือดอกไม้ประเภทหนึ่งที่มีความสวยงามตามชื่อ โดยเฉพาะความอ่อนหวานความละเอียดอ่อนแบบผู้หญิง แต่กลับไม่เป็นอย่างที่คิดเลยแม้แต่น้อย
เพราะจริงๆแล้วถึงแม้ว่าชื่อจะสวยงามมากแค่ไหน แต่ถ้าหากได้ลองศึกษา จริงๆแล้วกลับไม่ได้เป็นไปอย่างที่คิด เพราะว่าจริงๆแล้วอยากนำทางที่พูดถึงคือหนึ่งในสายพันธุ์ของพืชกินแมลงที่มีลักษณะที่แปลกประหลาดที่สุดในโลก และจริงๆแล้วสายพันธุ์ของพืชกินแมลงนับว่ามีอยู่หลากหลายทีเดียว
สิ่งหนึ่งที่บางคนอาจจะเข้าใจผิดคือจริงๆแล้วต้นหยาดน้ำค้างนั้นมีความต่างกับต้นจอกบ่วายมากทีเดียว เอาจริงแล้วด้วยลักษณะที่ถ้าหากว่าเป็นอย่างนั้นค้างก็จะเป็นต้นที่มีส่วนคล้ายๆกับแหง่งยื่นออกมา และบริเวณส่วนนั้นก็จะมีก้านโดยตรงปลายนั้นจะมีปุ่มกลมๆคล้ายกับน้ำค้าง แน่นอนว่าสามารถที่จะล่อแมลงได้เป็นอย่างดี
ที่สำคัญเมื่อจับแมลงได้แล้วตัวปลายที่ยื่นออกไปนั้นก็จะทำการม้วนขดเอาตัวแมลงกลับมา จริงๆก็คล้ายกับงูรัดเหยื่อ ซึ่งก็จะเป็นการยืนยันแบบถาวรว่าเหยื่อจะไม่สามารถหลุดออกไปอีกได้ และทั้งนี้ไม่ใช่แค่รัดให้ตายเพียงอย่างเดียว เพราะเอาเข้าจริงๆแล้วก็จะมีการใช้เมื่อที่อยู่ในตัวผลิตออกมาเพื่อที่จะช่วยในการย่อยสลายแมลงหรือสัตว์ที่สามารถจับได้
แต่ต้องบอกก่อนว่าถึงแม้จะอยู่ในวงศ์เดียวกัน แต่เมื่อมีรูปลักษณ์หรือรูปแบบที่แตกต่างกันออกไปแน่นอนว่าสิ่งเหล่านี้จะถูกพัฒนาขึ้นมาให้รองรับกับบริเวณพื้นที่จมูก สำหรับบางแบบที่เป็นคล้ายๆก้านยื่นออกมาก็จะพบได้ทุกทวีปทั่วโลก แต่ทั้งนี้อาจจะมีข้อกำหนดในทวีปแอนตาร์กติกาที่ไม่สามารถพบได้ หรือแบบที่เป็นคล้ายกับดอกไม้วางอยู่บนพื้นแต่บริเวณโดยรอบมีก้านและส่วนปลายที่ยืมไปใช้กับน้ำค้าง แน่นอนว่ารูปแบบนี้จะแอบซ่อนอยู่บริเวณเนินภูเขาต่างๆ ซึ่งจะต้องระมัดระวังในการเดินทางเขาถ้าเผลอไปเหยียบก็อาจจะเกิดอันตรายได้
โดยในประเทศไทยเองนั้นก็สามารถที่จะคบได้ถึง 3 สายพันธุ์ เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งใน ความพิเศษจากธรรมชาติที่ถูกมอบให้โดยเฉพาะ โดยทั้งสามสายพันธุ์นั้นมีดังนี้
1.จอกบ่วาย
2.หญ้าน้ำค้าง
3.หญ้าไฟตะกาด
เรียกได้ว่าทั้งสามสายพันธุ์นั้นก็มีความพิเศษในตัวเองและอาจจะต้องระมัดระวังถึงแม้ว่ารูปแบบทำให้ดูสวยงามจนชวนหลงใหล แต่ก็กล้าพูดได้เลยว่ามีบางสิ่งบางอย่างที่สามารถล่อแมลงได้เป็นอย่างดี และพื้นที่ที่สามารถขึ้นได้นั้นก็มีข้อจำกัดในเรื่องของความไม่สมบูรณ์ของพื้นที่อยู่แล้ว จึงยิ่งควรระวัง