โพรมิแนนซ์ จากขอบอาทิตย์ทั้งสวยงามและน่ากลัว
“ดวงอาทิตย์ นับว่าเป็นสิ่งที่สำคัญมากในระบบสุริยะจักรวาล และต้องยอมรับถึงเรื่องของประโยชน์และยังมีอีกหลายสิ่งที่ให้เรียนรู้และศึกษา”
เราต่างก็รู้กันดีว่าดวงอาทิตย์นั้นถึงว่ามีทั้งประโยชน์และมีทั้งความอันตรายอยู่ในตัวเอง แต่ก็ยังเป็นสิ่งที่ทำให้มนุษย์ต้องการศึกษาและค้นพบกันมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะฉะนั้นแล้วก็เป็นโอกาสดีที่จะทำให้เรานั้นได้รู้จักกับอีกหนึ่งสิ่ง ที่มีความเกี่ยวข้องกับดวงอาทิตย์เป็นอย่างมาก โดยสิ่งนั้นมีชื่อเรียกว่า “โพรมิแนนซ์” แต่ถ้าอยากรู้จักมากกว่านี้ตามมาดูกันได้เลย
ทำความรู้จัก : โพรมิเนนซ์ คืออะไร?
โพรมิเนนซ์ หรือ พวยก๊าซ สามารถที่จะเรียกว่าอะไรก็ได้ ซึ่งสิ่งนี้คือก๊าซที่พุ่งออกมาจากชั้นบรรยากาศโครโมสเฟียร์ รวมถึงในส่วนของโคโรนาดวงอาทิตย์ หรือจะเรียกว่าเป็นสสารของกลุ่มเมฆชนิดหนึ่ง ที่เกิดขึ้นมาบริเวณผิวของดวงอาทิตย์ และอยู่ในวงของสนามแม่เหล็ก
โดยการที่จะมองเห็นโพรมิเนนซ์ สามารถที่จะมองได้จากแนวเฉียงในขอบของดวงอาทิตย์ ก็จะทำให้มองเห็นได้อย่างชัดเจน เนื่องจากเปลวที่พุ่งขึ้นมานั้นจะมีความสว่างมากที่เดียว แต่ถ้าหากจะนับถึงความสูงที่เกิดขึ้นถือว่ามีอยู่ไม่ต่ำกว่าหลายหมื่นกิโลเมตร ถ้าหากว่านับจากบริเวณพื้นผิวขึ้นมา
ทำความรู้จัก : ลักษณะของโพรมิแนนซ์
สำหรับในส่วนของลักษณะจากโพรมิเนนซ์ ก็มาในลักษณะของเปลวที่พุ่งออกมาจากพื้นผิว แต่ในบางครั้งถ้าหากค้นหาในอินเทอร์เน็ต จะทำให้พบว่าลักษณะที่พุ่งออกมา ไม่ได้พูดเป็นเส้นตรงเพียงอย่างเดียว เพราะอาจจะเจอแรงลมที่อยู่บริเวณวงโคจร ทำให้ส่วนปลายที่พุ่งออกมานั้นย้อนกลับลงมาเป็นทรงโค้ง หรือบางครั้งก็วกกลับลงมา ตามเส้นของแรงโน้มถ่วงที่อยู่บริเวณพื้นผิว
ในปัจจุบันที่รู้จักกันสามารถแบ่งออกได้ 2 ประเภท คือ พวยก๊าซแบบธรรมดา และอีกแบบที่เกิดจากการลุกจ้า ในแบบแรกนั้นก็มีหลายประเภทเช่น Hedgerow,Cap, Irregular Arch, Frament ซึ่งในรูปแบบนี้จะมีอายุอยู่ได้นานเป็นเดือน แต่ถ้าหากว่าเป็นแบบที่เกิดจากการลุกจ้า เช่น Eruptive Prominence,Surge ในรูปแบบนี้จะมีอายุที่สั้นกว่า โดยอาจจะอยู่ได้แบบเป็นวัน หรือสัปดาห์เท่านั้น
โดยทั้งหมดนี้ก็คงพอจะอธิบายได้ว่าบางครั้งเวลาที่เห็นรูปดวงอาทิตย์ในอินเทอร์เน็ต หรือตามวีดีโอต่างๆ แล้วบริเวณขอบของดวงอาทิตย์นั้นมีคล้ายกับเปลวไฟพุ่งขึ้นมา สิ่งเหล่านี้ก็คงจะได้รับคำอธิบายแล้วว่าเป็น โพรมิแนนซ์ โดยแต่ละประเภทและแต่ละรูปแบบนั้นก็จะมีอายุอยู่แตกต่างกัน ซึ่งถือว่าเป็นทั้งความสวยงามแต่ก็ยังเป็นเรื่องที่อันตรายอยู่ดีและการที่จะศึกษาให้มากขึ้น