เต่าดำยักษ์ แห่งเกาะกาลาปากอส

กาลาปากอส เกาะแห่งความสวยงามและความหลากหลายทางธรรมชาติ แน่นอนว่าเราก็คงได้ยินชื่อกันบ่อยไม่ว่าจะจากสารคดีหรือทริปทัวร์ท่องเที่ยวต่างๆ ที่จะพาไปเปิดประสบการณ์และบรรยากาศสำหรับสถานที่แห่งนั้น
จะว่าไปเกาะแห่งนี้ดูเหมือนกับว่าเป็นดินแดนมหัศจรรย์ของสัตว์หลากหลายชนิด และแน่นอนว่าเป็นแหล่งรวบรวมสัตว์ที่หายากเพราะบางครั้งไม่ง่ายเลยที่เราจะเจอกันแตกในพื้นที่ต่างๆ กลับพบเจอได้ง่ายๆที่สถานที่ที่พูดถึง นอกจากนี้เรายังจะเห็นพฤติกรรมมากมายของสัตว์ที่อาศัยอยู่บนเกาะนี้ แปลว่าเป็นความน่าตื่นตาตื่นใจอย่างนี้ก็ว่าได้ งั้นเอาเป็นว่ามาทำความรู้จักกับสายพันธุ์ที่จะพูดถึงกันเลยดีกว่า

สายพันธุ์พิเศษ แข่งเกาะกาลาปากอส
จริงๆแล้วก็แห่งนี้ถ้าจะพูดถึงสัตว์ที่โดดเด่นหรือได้ยินชื่อกันบ่อยมากที่สุด ก็คงจะหนีไม่พ้นเต่ากาลาปากอส ซึ่งนับว่าเป็นเต่าที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกเมื่อมีการจัดอันดับแล้ว และที่สำคัญยังมีการแบ่งออกเป็น 15 สปีชีส์ ถ้าหากว่าไม่ได้ศึกษาเรื่องนี้โดยตรงก็ไม่แปลกเลยที่จะมองไม่ออก
แต่สำหรับสตรีที่ที่เราจะพูดถึงนั้น จริงๆจะว่าไปก็ถูกเรียกว่าเป็นเต่า Hybrid ก็ว่าได้ ซึ่งมีชื่อเรียกเต็มๆว่า แบล็คกาลาปากอส หรือจะเรียกอีกอย่างว่าเต่าดำก็ได้ ซึ่งต้องบอกเลยว่าเป็นสิ่งที่เราแทบจะไม่มีโอกาสได้เห็นกันในมุมทั่วไปด้วยซ้ำ
ความน่าสนใจอยู่ตรงที่ว่าเต่าสายพันธุ์นี้จะมีสีดำสนิทตั้งแต่สีผิวไปจนถึงกระดอง และนอกจากนั้นแล้วใส่สายพันธุ์นี้เป็นเต่าที่มีขนาดใหญ่ ซึ่งการที่จะเกิดสายธารหนูได้ก็คือการผสมข้ามสายพันธุ์ จนทำให้เกิดเป็นสายพันธุ์ที่ว่าขึ้นและแน่นอนว่าด้วยความแปลกและความน่าสนใจนี้ก็อาจจะต้องอาศัยอยู่ได้เพียงแค่ในศูนย์อนุรักษ์พันธุ์เพียงอย่างเดียวเท่านั้น
ถึงจะน่าสนใจแค่ไหนต้องบอกก่อนเลยว่าเป็นเต่าที่มีอายุยืนมากที่เดียว ซึ่งมีอายุไขถึง 150 ปี และที่สำคัญยิ่งเมื่อโตขึ้นเรื่อยๆก็จะยิ่งมีเอกลักษณ์และความเท่มากขึ้น ที่สำคัญถ้าหากจะให้จัดอันดับ สายพันธุ์นี้ก็จะต้องยอมรับเลยว่ามีขนาดที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 จากทั้งหมด แต่ถึงจะรู้แล้วว่า เป็นการผสมพันธุ์ข้ามสายพันธุ์หรือข้ามสปีชีส์ ในปัจจุบันยังไม่สามารถระบุได้อย่างชัดเจน ว่าเป็นการผสมข้ามมาจากสายพันธุ์อะไรบ้างจนทำให้เกิดสายพันธุ์นี้ขึ้น ยิ่งทำให้กลายเป็นเรื่องที่จะต้องศึกษาและจะต้องเรียนรู้กันอีกมากเลยทีเดียว

Rusty-spotted cat แมวขนาดเล็กที่สุดในโลก

แมว สัตว์เลี้ยงที่ใครๆต่างก็มองว่า แค่ไม่นานเจ้าพวกนี้ก็สามารถที่จะคว้าใจไปได้แล้ว เพราะความน่ารักและซุกซน แต่สุดท้ายแล้วก็ต้องยอมรับจริงๆเลยว่าแมวที่เห็นนั้นเป็นแมวขนาดใหญ่ ที่อาจจะหยิ่งมากไปนิดนึง แต่อย่างที่บอกเจ้าแมวพวกนี้ก็มีมุมน่ารักด้วยเหมือนกัน
สายพันธุ์ของแมวเป็นหนึ่งในเรื่องที่โดยทั่วไปแล้วอาจจะไม่ได้รู้รายละเอียดกันมากนะ แต่โดยรวมแล้วบางครั้งก็อาจจะต้องเคยเห็นผ่านตากันมาบ้างว่ามีสายพันธุ์อะไร แต่บอกเลยว่าสำหรับสายพันธุ์นี้บางคนอาจจะไม่เคยเห็นมาก่อนด้วยซ้ำ เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในสายพันธุ์แปลกแต่รูปร่างไม่ได้แปลกไปอย่างที่คิด

Rusty-spotted cat เป็นแมวแบบไหนกัน
ปกติแล้วเวลาที่เราเคยเห็นสายพันธุ์แมวผ่านตากันมาไหมส่วนใหญ่ก็จะเป็นแมวที่มีขนาดกลางไปจนถึงขนาดใหญ่ บางตัวมีขนาดที่ใหญ่ถึงขั้นที่แค่หนึ่งคนอุ้มอาจจะไม่พอด้วยซ้ำ แต่ต้องบอกเลยว่าไม่ใช่กับ Rusty-spotted cat เพราะแมวสายพันธุ์นี้มีความแตกต่างกับสายพันธุ์อื่นอย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากว่าแมวสายพันธุ์นี้นั้นจะมีขนาดที่เล็กมากทีเดียว ถึงขั้นที่ถูกจัดอันดับให้เป็นแมวที่มีขนาดเล็กที่สุดในโลก
และถึงแม้ว่าจะมีขนาดโตเต็มวัยแต่มีน้ำหนักไม่ถึง 2 กิโลกรัมด้วยซ้ำเพราะฉะนั้นแล้วก็ถือว่าเป็นหนึ่งในแนวที่น่าสนใจมากทีเดียว ทั้งนี้ถิ่นที่อยู่อาศัยหลักนั้นก็จะอยู่ในป่าของอินเดียและศรีลังกา เพราะฉะนั้นแล้วจากถิ่นที่อยู่อาศัยก็คงจะพอมองออกแล้วว่าแมวชนิดนี้ไม่ใช่แมวบ้าน
โดยที่แมวชนิดนี้อาจจะดูเป็นหนึ่งในสัตว์แปลกหายาก แล้วปกติมากที่จะไม่ค่อยมีคนรู้จักกันสักเท่าไหร่ แต่สำหรับบางคนนั้นอาจจะมองว่าแมวชนิดนี้เป็นแมวที่หายาก เพราะฉะนั้นอาจจะถูกล่าได้ง่ายๆ และนั่นยิ่งทำให้ในปัจจุบันแมวชนิดนี้นับว่าหายากมากขึ้น
เพราะฉะนั้นแล้วในตอนนี้ทำให้รัฐบาลของประเทศเหล่านั้นได้มีการออกกฎหมายเกี่ยวกับการห้ามล่าสัตว์ชนิดนี้โดยเฉพาะ เพราะตามหลักแล้วแมวชนิดที่พูดถึงนี้ เป็นแมวป่าดังนั้นแล้วการที่จะเอาชีวิตรอดอยู่ในป่านั้นก็ไม่ใช่เรื่องยาก ซึ่งก็จะช่วยให้สามารถที่จะเอาชีวิตรอดหรือใช้ชีวิตอยู่ในป่าได้แบบไม่มีปัญหา
โดยอาหารของแมวชนิดนี้ก็จะกินสัตว์ฟันแทะต่างๆ รวมถึงแมลงและสัตว์ขนาดเล็ก ที่สำคัญการออกหากินร้านก็จะหากินในเวลากลางคืนเนื่องจากเป็นเวลาที่ปลอดภัยเพราะจากขนาดแล้วอย่างน้อยเลยก็เป็นแนวที่สามารถเกิดอันตรายได้ง่ายๆ

asp caterpillar อันตรายในความน่ารัก

“ความน่ารัก บางครั้งก็อาจจะเป็นภัยต่อคนรอบข้าง คนที่กำลังคิดว่าสิ่งที่เห็นนั้นน่ารักมากเกินไปจนอยากจะสัมผัสหรือครอบครอง และอาจทำให้ละเลยการตระหนักถึงความอันตรายที่ซ่อนก็อยู่โดยไม่รู้ตัว”
ในโลกใบนี้อาจจะเป็นเพียงแค่ส่วนเล็กๆของจักรวาล แต่เพียงแค่ส่วนลึกๆส่วนนี้กับมีเรื่องน่าพิศวงหรือเรียกได้ว่าเป็นสิ่งแปลกประหลาดมากมายเลยทีเดียว และนั่นเองก็คงจะทำให้ยังดีเรื่องราวที่ยังไม่รู้เกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตอีกเยอะ งั้นเอาเป็นว่ามาทำความรู้จักกับหนึ่งในสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าแปลกประหลาดก็เลยดีกว่า

asp caterpillar หนอนอะไร?
ต้องยอมรับเลยว่าบนโลกใบนี้มีอะไรแปลกประหลาดนั้น หนอนผีเสื้อขนปุย ดูจะเป็นหนึ่งในความประมาทที่น่ารักแต่ในขณะเดียวกันก็มีความอันตรายอยู่ในตัวเอง บางคนอาจจะมองไม่ออกนึกว่าเป็นก้อนขนสัตว์อะไรสักอย่าง แต่ความเป็นจริงแล้วนั่งคืนหรอ แน่นอนว่าชื่อเรียกนั้นก็มีมากมายและหลากหลาย
โดยมอธชนิดนี้ส่วนใหญ่แล้วจะพบเจอได้ทางภาคใต้ของประเทศสหรัฐอเมริกา เม็กซิโก แต่ในบางครั้งก็สามารถพบเจอได้ในอเมริกากลาง ซึ่งแน่นอนว่าในหนังสือพื้นที่ที่กบมันก็ได้มีการตั้งชื่อแตกต่างกันออกไปอีกและแน่นอนว่ารูปลักษณ์ภายนอกเองก็จะต้องให้สอดคล้องกับพื้นที่ที่อยู่บริเวณนั้น
ดูถ้าหากมีโอกาสได้เห็นภาพแล้วคงพอจะมองออกกันได้ง่ายๆว่าดูรูปลักษณ์นั้นที่เป็นลักษณะขนที่ดูนุ่ม แต่จริงๆบอกเลยว่าด้วยลักษณะคนที่ดูรูปกูแต่บอกเลยว่าไม่ควรที่จะจับ ซึ่งต้องบอกเลยว่าหนอนชนิดนี้มีความอันตรายคล้ายๆกับบุ้ง ถึงแม้ว่าจะไม่ได้มีลักษณะที่เหมือนกับบุ้งเสมอไป เพราะสำหรับบุ้งแล้วแค่สัมผัสก็อาจจะรู้สึกคันได้ง่ายๆ แต่สำหรับหนอนชนิดนี้เป็นขน ถ้าหากว่าสัมผัสไปแล้วขนที่มี เงี่ยงพิษ ซึ่งก็คล้ายกับเข็มฉีดยาขนาดเล็กเมื่อสัมผัสโดนแล้วอาจจะทำให้เจ็บปวดได้ยาวนานถึง 12 ชั่วโมง แต่ทางนี้อาจจะไม่ได้มีอันตรายที่ทำให้ถึงขั้นเสียชีวิต โดยในอาการปวดเหล่านี้จะไม่ได้ปวดเพียงแค่จุดเดียวแต่ปวดลามไปถึงส่วนอื่นของอวัยวะเหล่านั้น
เพราะฉะนั้นแล้วนับว่าเป็นหนึ่งในสัตว์ที่ควรจะต้องหลีกเลี่ยงอย่างรวดเร็วถ้าเจอ หรือถ้าสามารถที่จะไม่สัมผัสได้ ก็ควรที่จะหลีกเลี่ยงการสัมผัสอย่างรวดเร็ว ขออย่างน้อยถึงไม่ได้ทำให้เสียชีวิตแต่อาจจะถึงขั้นต้องเข้าไปนอนโรงพยาบาลด้วย
ส่วนใหญ่แล้วเมื่อเกิดเหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นก็จะต้องมีการใช้เทปกาวกระดาษกาวในการดึงเอาขนออก นอกจากนั้นให้นำน้ำแข็งมาช่วยประคบเพื่อทำให้อาการบวมรวมถึงอาการอักเสบนั้นลดลง และจริงๆแล้วไม่ใช่มีแค่สายพันธุ์ที่ว่าเท่านั้นที่อันตราย เพราะจริงๆยังมีอีกหลายพันเลยทีเดียวที่สามารถสร้างรายหรือมีพิษในตัวเอง

กวางแวมไพร์ แห่งที่ราบสูงจีน

ต้องยอมรับว่า โลก ใบนี้ ยังมีเรื่องแปลกๆมากมายที่เรานั้นอาจจะไม่เคยรู้ และหนึ่งในนั้นก็คงเป็นสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่ารูปแบบที่แปลกแล้วก็อาจจะมีอะไรหลายๆอย่างที่เรียกว่าแปลกที่เหมือนกัน เพราะฉะนั้นแล้วก็เป็นหนึ่งในสิ่งที่เราควรที่จะต้องรู้จักกันให้มาก
หนึ่งในสัตว์ที่นับว่าน่าสนใจ นั่นก็คือ กวาง จะสงสัยว่าแล้วจะแปลกอะไรตรงไหน ขอดูปกติแล้วเราเองก็คงจะพอเห็นกวางกันมาบ้าง แบบที่ดูพิเศษมากที่สุดก็คงจะเป็นกวางเรนเดียร์ที่มีเรื่องราวมาจากช่วงคริสต์มาส แต่จริงๆแล้วยังมีอะไรที่พิเศษมากกว่านั้นต้องยอมรับเลยว่า ไม่ใช่ว่าจะมีโอกาสได้เห็นกันง่ายๆ

กวาง ที่พิเศษกว่ากวาง
โดยปกติเวลาที่เราพูดเรื่องของกวาง แน่นอนว่าเราก็อาจจะได้ยินเพียงแค่กวางหนาทั่วไปที่สามารถพบเจอกันได้ตามสวนสัตว์ แต่จริงๆแล้วยังมีอีก 1 ประเภท ที่เรียกได้ว่ามีความพิเศษกว่าประเภทอื่นๆ ซึ่งนั่นก็คือ ทัฟท์ เดียร์ แล้วต้องยอมรับเลยว่ามีน้อยคนที่จะรู้จักกับกวางประเภทนี้
เรียกชื่อที่ว่าอาจจะดูเป็นชื่อที่แปลกหู ถ้าจะถามถึงชื่อที่ได้รับความนิยมในการเรียก ก็คงจะเคยได้ยิน เรื่องของ กวางแวมไพร์ คือรูปลักษณ์ภายนอกนั้นอาจจะเป็นความโดยปกติแต่ต้องยอมรับเลยว่ามีหน้าตาที่น่ากลัวและอาจจะคล้ายกับแวมไพร์อย่างที่จินตนาการกันไว้ เนื่องจากจะมีเที่ยวยื่นออกมาทั้ง 2 ด้าน ทำให้หน้าตาคล้ายกับแวมไพร์พอสมควร
แต่ถึงแม้ว่ารูปลักษณ์ภายนอกจะดูรุนแรงหรือร้ายแรงแค่ไหน แต่ถ้าจะพูดถึงลักษณะนิสัยบอกเลยว่าไม่ได้ดุร้ายหรือแปลกประหลาดกันที่หลายๆคนนั้นกังวลกัน ที่สำคัญยังเป็นกวางที่มีนิสัยขี้อาย ที่สำคัญยังรักสันโดษส่วนใหญ่แล้วมักจะอยู่เพียงลำพังไม่ได้อยู่รวมกันเป็นฝูง และด้วยนิสัยขี้อายเหล่านี้จะทำให้เกิดอาการตกใจได้ง่ายๆเวลาพบกับสิ่งผิดปกติ เพราะฉะนั้นแล้วไม่แปลกเลยที่มนุษย์แทบจะมีโอกาสน้อยในการทุบเจอเนื่องจากเป็นสัตว์ที่ความขี้อาย
อาจจะถามถึงถิ่นที่อยู่ก็เป็นประเทศจีน โดยส่วนใหญ่จะอยู่บริเวณที่ราบสูง เพราะฉะนั้นแล้วยิ่งยากต่อการที่จะพบเจอ
เพราะฉะนั้นแล้วกวางแวมไพร์ที่พูดถึง นับว่าเป็นหนึ่งในสัตว์แปลกที่ต้องยอมรับเลยว่าน้อยคนที่จะรู้จักและมีโอกาสได้เห็น และแน่นอนว่ายังมีเรื่องราวที่แปลกประหลาดบนโลกใบนี้ที่เรายังไม่รู้อีกมากมาย โดยเฉพาะสิ่งมีชีวิตต้องยอมรับเธอว่าอ้าวจะมีอีกหลายหมื่นหรือหลายสายพันธุ์ เอาเป็นว่าก็ยังเป็นเรื่องที่เราต้องรอเรียนรู้กันอีกต่อไป ว่าจริงๆแล้วยังมีอะไรที่รอให้เราค้นพบอีกบ้าง

หมาป่าเคราขาว สัตว์แปลกแห่งอเมริกาใต้

หมาป่า แค่ฟังชื่อก็รู้แล้วว่าเป็นสัตว์ที่น่ากลัว และข้างหน้าที่จะหลีกเลี่ยงไม่พบเจอสัตว์ประเภทนี้ได้ ก็คงจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุดและเวลาไปเที่ยวตามแหล่งธรรมชาติต่างๆ โดยเฉพาะในต่างประเทศที่มีโอกาสจะพบเจอสัตว์ชนิดนี้ได้ง่ายมากที่สุด
โดยทั่วไปแล้ว หมาป่า มักกลายเป็นสัญลักษณ์เพื่อทดแทนความรุนแรงและโหดร้าย ก็มักจะมากับความน่ากลัวอยู่ตลอดเวลา แต่ในความเป็นจริงแล้วยังมีหนึ่งในสายพันธุ์ของหมาป่า ที่บอกได้เลยว่าเป็นหนึ่งในสิ่งที่อาจจะทำให้ใครหลายคนรู้สึกหลงรักหมาป่ามากขึ้นด้วยซ้ำไป แต่จะเป็นสายพันธุ์ไหนมาดูกันดีกว่า

หมาป่าเคราขาว สายพันธุ์พิเศษที่สุด
ต้องขอก่อนว่าจากที่เคยได้ยินกันมา หมาป่า ดูเป็นสัตว์ที่ดุร้าย แต่ต้องบอกเลยว่าสายพันธุ์ของหมาป่าเคราขาว เป็นสายพันธุ์ที่มีเสน่ห์ในตัวเองรวมถึงมีจุดเด่นอย่างชัดเจน ขออย่างนึงที่เห็นได้ชัดคือเรื่องของเขาสีขาวที่อยู่บริเวณใต้คาง จึงไม่แปลกที่ทำให้ได้ชื่อนี้มา แต่นอกจากนี้แล้วสิ่งที่เป็นเอกลักษณ์ของหมาป่าชนิดคือมีขนาดตัวที่ใหญ่มากกว่าหมาป่ามาปกติมากทีเดียว
แต่อีกหนึ่งอย่างที่ดูจะเป็นอีก 1 พฤติกรรมที่ไม่เหมือนใคร เนื่องจากสายพันธุ์ที่กำลังพูดถึงตอนนี้ ไม่ได้มีลักษณะของการอยู่รวมกันเป็นฝูง เพราะตามหลักโดยทั่วไปแล้วเวลาที่พูดถึงหมาป่าเรามักจะเคยเห็นกันแต่เป็นฝูง แต่สำหรับสายพันธุ์นี้มักจะอยู่อาศัยตามลำพังไม่อยู่รวมกับใครทั้งนั้น ยกเว้นว่าจะมีคู่ครองเป็นของตัวเองหลังจากนั้นก็จะนิยมอยู่เป็นคู่
หากจะถามถึงอาหารการกินหมาป่าสายพันธุ์นี้จะเน้นไปทางการกินสัตว์ขนาดเล็ก รวมถึงยังกินพืชและผลไม้ เนื่องจากว่าร่างกายของหมาป่าสายพันธุ์นี้ถ้าหากว่าไม่ได้กินพืชหรือผลไม้ก็อาจจะทำให้เป็นนิ่วได้เหมือนกัน
ในส่วนของที่อยู่ของหมาป่าหลายชนิดจะไม่ได้อยู่ในประเทศไทย แต่ถ้าหากอยากที่จะพบเจอส่วนใหญ่แล้วก็อยู่ที่ทุ่งหญ้าแถบประเทศบราซิล หรือหลายๆประเทศในทวีปอเมริกาใต้ ซึ่งเป็นสถานที่ที่เหมาะสมมากทีเดียว
ซึ่งนับเลยว่าหมาป่าเคราขาว เป็นหนึ่งในสายพันธุ์ของสัตว์แปลกที่เราสามารถพบเห็นได้บนโลกนี้ แต่ก็ไม่ได้พบเห็นกันได้ง่ายขนาดนั้นเนื่องจากเมื่อไม่ได้อยู่รวมกันเป็นฝูง การสังเกตหรือการหาให้พบมันก็ยิ่งยาก โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่ หรือที่เรียกว่าที่อยู่อาศัยนั้นก็จะอยู่ที่บริเวณทุ่งหญ้าเป็นส่วนใหญ่ เพราะฉะนั้นแล้วจึงไม่ได้มีการหากันได้ง่ายขนาดนั้น

นิ่มนางฟ้าสีชมพู สัตว์หายากเจอได้ปีละครั้ง

ตัวนิ่ม หนึ่งในคำเรียกที่จะถูกใช้เรียกเด็กๆ เพื่อแสดงให้เห็นถึงความน่ารักและน่าทะนุถนอม แต่จริงๆแล้วต้องบอกก่อนว่านี่นับเป็นหนึ่งในที่ขึ้นชื่อว่าหายากมากทีเดียว แต่ทางนี้กลับไม่ใช่แบบทั่วไปเพราะยังมีอยู่ 1 ประเภทที่ควรจะรู้เอาไว้
โดยปกติแล้วเวลาที่พูดถึงตัวนิ่ม แน่นอนว่าสัตว์ชนิดนี้เราสามารถที่จะหาดูได้ตามสวนสัตว์หลายๆแห่ง แต่ยังมีอีกหนึ่งประเภทที่ต้องยอมรับเลยว่าไม่ได้หาดูได้ง่ายขนาดนั้น นั่นก็คือ นิ่มนางฟ้าสีชมพู แค่ฟังชื่อก็คงรู้สึกน่ารักมากแล้วแต่เอาเข้าจริงๆต้องยอมรับว่าน้อยครั้งที่จะมีโอกาสได้เห็นกันตัวเป็นๆ งั้นเอาเป็นว่าเราลองมาทำความรู้จักกับสัตว์แปลกชนิดนี้ก็เลยดีกว่า

นิ่มนางฟ้าสีชมพู เป็นอย่างไร
ต้องบอกก่อนว่า นิ่มนางฟ้าสีชมพู (Pink Fairy Armadillo) ถ้าหากจะดูตามสายพันธุ์ของตัวนิ่มแล้ว ต้องยอมรับเลยว่านิ่มประเภทนี้มีขนาดตัวที่เล็กที่สุดในบรรดาสายพันธุ์ทั้งหมด เมื่อวานขนาดออกมาแล้วก็จะมีขนาดเพียงแค่ 9-12 เซนติเมตร และเมื่อคำนวณรวมให้เป็นน้ำหนักแล้วต้องยอมรับเลยว่ามีขนาดน้ำหนักตัวที่น้อยมากทีเดียว เพียงแค่ 400 กรัมเท่านั้น
จะเห็นได้ว่าตัวนิ่มนั้นบนหลังจะมีเปลือกแข็งไว้เพื่อเป็นการป้องกันตัว น้ำหดตัวก็จะมีขนาดตัวที่เล็กลงไปอีก เพราะฉะนั้นจะเห็นได้ว่ามีความแปลกมากกว่าสายพันธุ์อื่นๆมาทีเดียว
นอกจากนี้ในมุมของถิ่นที่อยู่อาศัยนั้นก็จะอยู่อาศัยแถบประเทศอาร์เจนตินา ซึ่งน้อยมากที่จะมีโอกาสได้พบเห็นสายพันธุ์นี้ที่ประเทศอื่น และที่สำคัญเหตุนึงที่ไม่สามารถพบได้ง่ายนั่นก็เป็นเพราะว่า ลักษณะนิสัยปกติแล้วจะออกมาหาอาหารช่วงกลางคืนเท่านั้น จึงไม่ง่ายเลยที่จะได้พบเห็น แล้วไม่ใช่ด้วยลักษณะนิสัยของตอนออกหากินเพียงแค่ตอนกลางคืนเท่านั้น
เนื่องจากว่าตามการสำรวจจากชาวพื้นเมืองของประเทศอาร์เจนตินา ทำให้ได้รู้ว่าตัวนิ่มนางฟ้าสีชมพูจะอยู่แค่เฉพาะพื้นที่ที่ฝนตกน้อย เพราะฉะนั้นเมื่อบริเวณนั้นมีฝนตกจนน้ำท่วมโพรงที่อยู่อาศัย ตัวนิ่มที่ว่าก็จะปีนออกมาจากโพรง หลังจากนั้นค่อยกลับลงไปใหม่ตอนช่วงที่น้ำลดลงไปแล้ว
ซึ่งต้องยอมรับเลยว่าไม่น่าเชื่อว่าเราจะยังได้มีโอกาสที่จะรู้จักกับตัวนิ่มนางฟ้าสีชมพู เนื่องจากว่าในปัจจุบันนั้นมีจำนวนประชากรเหลือน้อยมากที่เดียวทำให้ถูกขึ้นทะเบียนให้เป็นสัตว์ที่จะต้องได้รับการคุ้มครองและดูแล แต่ก็ต้องทำใจกันพอสมควรเนื่องจากว่าหาได้ยากมากทีเดียวในแถบประเทศอื่น เพราะฉะนั้นแล้วก็คงจะต้องรอดูกันต่อไปว่าจะมีโอกาสได้เห็นจากที่ไหนอีกบ้าง

หยาดน้ำค้างพืชแปลกๆ สร้างสมดุลธรรมชาติ

หยาดน้ำค้าง ถ้าใครได้ยินก็คงคิดว่าเป็นหนึ่งในชื่อของพืชพรรณหรือดอกไม้ประเภทหนึ่งที่มีความสวยงามตามชื่อ โดยเฉพาะความอ่อนหวานความละเอียดอ่อนแบบผู้หญิง แต่กลับไม่เป็นอย่างที่คิดเลยแม้แต่น้อย
เพราะจริงๆแล้วถึงแม้ว่าชื่อจะสวยงามมากแค่ไหน แต่ถ้าหากได้ลองศึกษา จริงๆแล้วกลับไม่ได้เป็นไปอย่างที่คิด เพราะว่าจริงๆแล้วอยากนำทางที่พูดถึงคือหนึ่งในสายพันธุ์ของพืชกินแมลงที่มีลักษณะที่แปลกประหลาดที่สุดในโลก และจริงๆแล้วสายพันธุ์ของพืชกินแมลงนับว่ามีอยู่หลากหลายทีเดียว
สิ่งหนึ่งที่บางคนอาจจะเข้าใจผิดคือจริงๆแล้วต้นหยาดน้ำค้างนั้นมีความต่างกับต้นจอกบ่วายมากทีเดียว เอาจริงแล้วด้วยลักษณะที่ถ้าหากว่าเป็นอย่างนั้นค้างก็จะเป็นต้นที่มีส่วนคล้ายๆกับแหง่งยื่นออกมา และบริเวณส่วนนั้นก็จะมีก้านโดยตรงปลายนั้นจะมีปุ่มกลมๆคล้ายกับน้ำค้าง แน่นอนว่าสามารถที่จะล่อแมลงได้เป็นอย่างดี
ที่สำคัญเมื่อจับแมลงได้แล้วตัวปลายที่ยื่นออกไปนั้นก็จะทำการม้วนขดเอาตัวแมลงกลับมา จริงๆก็คล้ายกับงูรัดเหยื่อ ซึ่งก็จะเป็นการยืนยันแบบถาวรว่าเหยื่อจะไม่สามารถหลุดออกไปอีกได้ และทั้งนี้ไม่ใช่แค่รัดให้ตายเพียงอย่างเดียว เพราะเอาเข้าจริงๆแล้วก็จะมีการใช้เมื่อที่อยู่ในตัวผลิตออกมาเพื่อที่จะช่วยในการย่อยสลายแมลงหรือสัตว์ที่สามารถจับได้
แต่ต้องบอกก่อนว่าถึงแม้จะอยู่ในวงศ์เดียวกัน แต่เมื่อมีรูปลักษณ์หรือรูปแบบที่แตกต่างกันออกไปแน่นอนว่าสิ่งเหล่านี้จะถูกพัฒนาขึ้นมาให้รองรับกับบริเวณพื้นที่จมูก สำหรับบางแบบที่เป็นคล้ายๆก้านยื่นออกมาก็จะพบได้ทุกทวีปทั่วโลก แต่ทั้งนี้อาจจะมีข้อกำหนดในทวีปแอนตาร์กติกาที่ไม่สามารถพบได้ หรือแบบที่เป็นคล้ายกับดอกไม้วางอยู่บนพื้นแต่บริเวณโดยรอบมีก้านและส่วนปลายที่ยืมไปใช้กับน้ำค้าง แน่นอนว่ารูปแบบนี้จะแอบซ่อนอยู่บริเวณเนินภูเขาต่างๆ ซึ่งจะต้องระมัดระวังในการเดินทางเขาถ้าเผลอไปเหยียบก็อาจจะเกิดอันตรายได้
โดยในประเทศไทยเองนั้นก็สามารถที่จะคบได้ถึง 3 สายพันธุ์ เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งใน ความพิเศษจากธรรมชาติที่ถูกมอบให้โดยเฉพาะ โดยทั้งสามสายพันธุ์นั้นมีดังนี้
1.จอกบ่วาย
2.หญ้าน้ำค้าง
3.หญ้าไฟตะกาด
เรียกได้ว่าทั้งสามสายพันธุ์นั้นก็มีความพิเศษในตัวเองและอาจจะต้องระมัดระวังถึงแม้ว่ารูปแบบทำให้ดูสวยงามจนชวนหลงใหล แต่ก็กล้าพูดได้เลยว่ามีบางสิ่งบางอย่างที่สามารถล่อแมลงได้เป็นอย่างดี และพื้นที่ที่สามารถขึ้นได้นั้นก็มีข้อจำกัดในเรื่องของความไม่สมบูรณ์ของพื้นที่อยู่แล้ว จึงยิ่งควรระวัง

Dragon’s Blood Tree ต้นไม้ความงาม 1,000 ปี

การบำรุงรักษาผิวจัดว่าสำคัญ แต่บางครั้งจะพึ่งการดูแลรักษาที่จะต้องใช้เคมีไปตลอดไม่ได้ เพราะฉะนั้นว่าด้วยเรื่องของการใช้สมุนไพรหรือพืชเข้ามาเป็นตัวช่วย บอกเลยว่าน่าสนใจมากทีเดียว พืชบนโลกนี้มีมากมายทีเดียว
แต่จะถามว่าสายพันธุ์ไหนดูท่าจะเหมาะกับการดูแลผิว Dragon’s Blood Tree นับว่าเป็นหนึ่งในสายพันธุ์ของพืชที่จะถูกเอามาใช้ แต่ใครจะไปคิดว่าจริงๆแล้วมีน้อยคนที่จะได้รู้จักต้นไม้ชนิดนี้ และกล้าพูดได้เลยว่าเป็นต้นที่มีความพิเศษมากทีเดียว
จริงๆแล้วสำหรับต้นไม้มังกรดูจะพิเศษมาตั้งแต่รูปลักษณ์ภายนอก จริงๆแล้วอาจจะไม่ถูกเรียกว่าต้นไม้มังกร เพราะสามารถเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า ต้นเลือดมังกร จะว่าไปชื่อที่ได้มานั้นก็มาจากการที่เมื่อเติบโตไปได้ในระยะเวลาหนึ่งแล้ว ก็จะมียางไหลออกมาจากลำต้น ซึ่งอย่างนี้จะมีสีแดง เพราะฉะนั้นสามารถเรียกได้ว่าต้นเลือดมังกร
โดยต้นไม้ต้นนี้มีถิ่นกำเนิดอยู่ในประเทศออสเตรเลีย แต่หากจะถามว่าพบมากที่ไหนก็คงจะเป็นหมู่เกาะที่ประเทศสเปน แต่มักจะไม่ได้ขึ้นรวมกันเป็นกลุ่ม ส่วนใหญ่แล้วจะขึ้นกระจายแยกกันออกไปเป็นลำต้นเดี่ยว แต่ก็เป็นต้นที่มีขนาดสูงประมาณ 12 เมตรเลยทีเดียว และลักษณะข้างนอกงานจะมีความคล้ายคลึงกับร่ม ว่าด้วยเรื่องของความสูงที่พูดไปก่อนหน้านี้ ต้องบอกเลยว่าเป็นต้นไม้ที่จะสูงเพียงแค่ปีละ 1 เมตรเท่านั้น
และแน่นอนว่าความพิเศษก็คงอยู่ตรงที่ยางต้นไม้สีแดงที่ไหลออกมา หรือจะเรียกได้อีกอย่างว่าเลือดมังกรอย่างที่เห็น และจริงๆแล้วยังต้นไม้นี้ได้มีการค้นพบจากทวีปอเมริกาใต้ในการนำมาใช้เพื่อการรักษาฟื้นฟู รวมถึงใช้เพื่อคุณสมบัติสำหรับการดูแลผิวมากมาย ซึ่งจะว่าไปหนึ่งในนั้นที่เรียกได้ว่า สามารถใช้เพื่อการรักษาและสมานผิวได้ดีทีเดียว ถนนหักใหญ่ที่กำลังมีปัญหาเรื่องเป็นแผล แนะนำเลยว่าสามารถที่จะใช้ได้
เพราะฉะนั้นคงปฏิเสธไม่ได้เลยว่าอย่างในปัจจุบัน ต้นไม้ชนิดนี้กลายเป็นศาสตร์แห่งความงามที่มีอายุมากกว่าพันปี ยิ่งมาเจอกับนวัตกรรมในยุคใหม่ๆที่มีการนำเทคโนโลยีเข้ามามากขึ้น ทำให้มีประสิทธิภาพเพิ่มเติมสำหรับคุณสมบัติที่เคยมี
โดยเฉพาะคุณสมบัติสำหรับการชะลอวัยหรือริ้วรอยต่างๆ ที่สำคัญยังสามารถช่วยในการปกป้องผิวจากสารอนุมูลอิสระต่างๆหรือสภาพแวดล้อมที่มีอยู่ในปัจจุบัน โดยเฉพาะเรื่องของมลภาวะที่เป็นพิษที่มาจากการใช้ชีวิตประจำวัน พี่อาจจะส่งผลต่อการเกิดริ้วรอยของผู้หญิงมากขึ้นและทำให้รูขุมขนกว้าง แนะนำว่าถ้ากำลังหาสารสำหรับบำรุงผิวต้นไม้มังกรนี้คงเป็นทางเลือกที่ดี

ทิเบตัน มาสทิฟฟ์ สุนัขดุอันดับ 1 ของโลก

“สุนัข สัตว์เลี้ยงที่ใครๆก็ต่างยกย่องให้เป็นสัตว์เลี้ยงที่มีความซื่อสัตย์กับเจ้าของมากที่สุด ยิ่งบางสายพันธุ์ยังสามารถที่จะช่วยมนุษย์ในการเลี้ยงเด็กหรือดูแลคนในครอบครัวได้อีกต่างหาก ไม่แปลกที่แทบทุกบ้านจะต้องมีสุนัขเป็นของตัวเอง”
แต่สำหรับบางสายพันธุ์ดูๆไปแล้วอาจจะไม่ได้ใจดีอย่างที่คิดหรืออาจจะดูน่ากลัว จนทำให้ใครหลายๆคนนั้นขยะกับการมีสุนัขไว้ในบ้านด้วยซ้ำไป และหนึ่งในสายพันธุ์ที่เรียกว่าเป็นที่สุดในบรรดาคณะและถือว่าน่ากลัวไม่แพ้กับสายพันธุ์อื่น มีชื่อว่า ทิเบตัน มาสทิฟฟ์
เจ้าสุนัขสายพันธุ์นี้มีความพิเศษตั้งแต่รูปลักษณ์ภายนอกที่สามารถมองเห็นได้ชัดเจนเลยว่าอาจจะมีความดุร้ายหรือน่ากลัวแฝงอยู่ แต่ในบางมุมก็ยังดูขี้เล่นน่ารัก เรียกได้ว่าเอาไปเป็นหมอนข้างในห้องยังได้ แต่ใครจะคิดว่าจริงๆแล้วเจ้าหมาสายพันธุ์นี้ดันมีฉายาหรือถูกขนานนามว่าสามารถที่จะสู้กับสิงโตได้แบบสบายๆ เพราะสายพันธุ์นี้นับว่าเป็นสายพันธุ์ที่ดุที่สุดในโลกแล้ว
จริงๆเจ้าสายพันธุ์นี้ก็ไม่ได้มาจากที่ไหนไกล เรียกได้ว่าอยู่ใกล้กันกลายเป็นเพื่อนบ้านของเราพร้อมสำหรับสุนัขพันธุ์มาจากสถานที่กำเนิดในทิเบต น่านอนมากก็นับว่าเป็นหนึ่งในสายพันธุ์ที่มีความเก่าแก่มากทีเดียว ที่สำคัญยังถูกเรียกได้ว่าเป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์
แต่ที่อย่างน้อยก็เป็นสัตว์ที่ได้รับหน้าที่สำคัญในการดูแลกลุ่มสัตว์ที่อยู่บนภูเขา เรียกได้ว่าเป็นสุนัขคู่ใจของชาวบ้านที่อยู่บนเขาเลยทีเดียวในการช่วยงาน
ในปัจจุบันเราคงรู้จักสุนัขในสายพันธุ์ทิเบตัน มาสทิฟฟ์กันเป็นอย่างดี นั่นก็เป็นเพราะว่าสุนัขสายพันธุ์นี้ขึ้นชื่อว่าเป็นสุนัขที่มีราคาแพงที่สุดในโลกราคา 1 ตัวในการตีเป็นเงินไทยก็นับว่าหลายสิบล้านเลยทีเดียว จึงไม่แปลกเลยไหนจะมีเรื่องของค่าเลี้ยงดูและการดูแลต่างๆที่มีผลต่อการดูแลรักษาระยะยาวด้วย
เห็นอย่างนั้นแต่ต้องบอกหนูว่าสายพันธุ์ที่เห็นจะอยู่ในประเทศไทย จากที่เห็นแล้วว่ามันตัวใหญ่แต่ในความเป็นจริงสายพันธุ์เหล่านี้เธอมีความเสียตังค์ในด้านของขนาดตัวลงไปพอสมควร เพราะฉะนั้นแล้วถ้าเทียบกับในอดีตสุนัขสายพันธุ์นี้จะมีขนาดตัวที่ใหญ่มากจนถึงขั้นที่กล้าพูดได้เลยว่าการสู้กับสิงโตดูจะเป็นเรื่องที่ง่ายดายมากทีเดียว
แต่อย่างที่บอกถึงอย่างนั้นไม่ใช่ว่าในประเทศไทยจะไม่มีผู้ที่เลี้ยงสุนัขสายพันธุ์นี้อยู่ แต่แน่นอนว่าก็อาจจะต้องมีการดูแลทั้งเรื่องของอาหาร หรือแม้แต่ที่อยู่อาศัยอย่างละเอียดอ่อนเพื่อเป็นการรักษาสุขภาพให้กับสุนัขพันธุ์นี้

แอฟริกันเกรย์ นกแก้วหัวไวจำคำได้ถึง 200 คำ

นกแก้ว สีสันในกรงที่ไม่ว่ายังไงก็ยากที่จะละสายตาไปจากตรงนั้น และกลับทำให้บางคนหลงเสน่ห์นกสายพันธุ์นี้ไปมากกว่าเดิม
แต่ไม่จำเป็นที่นกแก้วจะต้องทำจำกัดให้มีสีสันอย่างเดียว เพราะยังมีหลายๆสายพันธุ์ที่ต่างไปอย่างสิ้นเชิง และถ้าหากว่าเล็กๆได้ไปสวนสัตว์แน่นอนว่ายังไงก็จะต้องเคยเห็นว่ายังมีนกแก้วอีกหนึ่งสายพันธุ์ที่อยู่คู่กัน สำหรับสีน้ำอาจจะไม่ได้เป็นสีสันแบบที่เห็น เพราะเห็นแล้วก็จะเป็นสีเทา แต่ก็มีความน่ารักเป็นของตัวเอง
จริงๆหลายคนที่ยังไม่รู้จักกับนกแก้วสายพันธุ์นี้ จริงๆถูกเรียกว่า แอฟริกันเกรย์ (African Gray Parrot) เพราะฉะนั้นลักษณะภายนอกที่เห็นได้ชัดเจนคือลำตัวทั้งหมดนั้นจะมีสีเทาโดยจะมีการแซมสีดำไว้บริเวณปลายปีก และอาจจะมีสีสันอยู่บริเวณหาง ซึ่งนกแก้วสายพันธุ์นี้ยังสามารถถูกแบ่งออกเป็น 3 สายพันธุ์ย่อย
โดยทั้งสามสายพันธุ์นั้นนอกจากชื่อเรียกที่ต่างกันแล้วสิ่งที่ทำให้เกิดความแตกต่างมากขึ้นคือจะมีทั้งเรื่องของขนาด สีสัน หรือแม้แต่ถิ่นกำเนิดที่มีความต่างกัน
สำหรับนกแก้วที่พูดถึงนับว่าเป็นหนึ่งในสัตว์เลี้ยงยอดนิยมไม่แพ้กันกับนกแก้วอีก 1 สายพันธุ์เลยทีเดียว โดยเฉพาะในประเทศไทยที่เรียกได้ว่ามีปัจจัยและสภาพแวดล้อมต่างๆที่อำนวยความสะดวกต่อเรื่องของการเพาะพันธุ์
แต่เรื่องสำหรับคนที่อยากจะเลี้ยงแอฟริกันเกรย์ ต้องบอกเลยว่าจะต้องระมัดระวังในเรื่องของพฤติกรรมที่แสดงออกพอสมควร โดยปกติแล้วอาจจะไม่จำเป็นต้องใส่ใจในเรื่องของพฤติกรรมการแสดงออกสักเท่าไหร่ แต่สำหรับนกแก้วสายพันธุ์นี้ดูจะเป็นสิ่งที่มีผลมากทีเดียวเพราะถ้าหากว่าผู้เลี้ยงแสดงพฤติกรรมออกมาในรูปแบบไหน นกแก้วสายพันธุ์นี้ก็จะแสดงพฤติกรรมออกมาคล้ายกัน รีวิวว่าเป็นหนึ่งในความสามารถพิเศษในการเรียนแบบพฤติกรรมของเจ้าของได้ด้วยความรวดเร็ว
เพราะฉะนั้นถ้าหากอยากที่จะเลี้ยงนกสายพันธุ์นี้ต้องมีเรื่องของการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม โดยเฉพาะเรื่องของการแสดงออกและอารมณ์ เพราะถ้าหากว่าแสดงพฤติกรรมแบบก้าวร้าวออกไปให้นกได้เรียนรู้ หลังจากนั้นเวลาที่ไปเล่นกับนกแก้วตัวนี้ก็จะมีพฤติกรรมก้าวร้าวกับผู้เลี้ยง ทางที่ดีเน้นเรื่องของความนุ่มนวลและอ่อนโยนในการแสดงออกจะดีที่สุด
ใครจะคิดว่าสำหรับนกแก้วสายพันธุ์นี้นอกจากการเลียนแบบพฤติกรรมหรือเลียนแบบการพูดได้ตามปกติแล้ว นกสายพันธุ์นี้ยังสามารถที่จะมีคำศัพท์ที่สามารถจดจำและพูดได้ถึง 200 คำเลยทีเดียว นับว่าเป็นหนึ่งในความสามารถพิเศษมาก
แต่การที่จะนำนกสายพันธุ์นี้มาเป็นสัตว์เลี้ยงนั่นหมายความว่าจะต้องมีการศึกษาและเรียนรู้ให้ได้ดี เพราะอาจจะต้องมีการดูแลเป็นพิเศษ