ฝนหิมะ ปรากฎการณ์ธรรมชาติที่มาจากความเย็น

“ฝน อาจเป็นฤดูที่กำลังเปลี่ยนผ่าน และดูเหมือนไม่มีอะไร แต่บางครั้งสิ่งมหัศจรรย์มักจะมาในรูปแบบของความธรรมดาอยู่เสมอ”
ฤดูฝน อาจจะเป็นฤดูที่ใครหลายๆคนถ้าหากสามารถเลือกนอนหลับให้ผ่านไปได้ ก็คงจะเป็นสิ่งที่ใครหลายๆคนเลือกที่จะทำอะไรแบบนั้น เพราะด้วยบรรยากาศหรือความรู้สึกที่ได้ในฤดูนั้นอาจจะทำให้บางคนรู้สึกเหงาและเศร้าด้วยซ้ำไป ไม่เคยคิดกันบ้างหรือไม่ว่าบางครั้งอย่างที่บอกสิ่งมหัศจรรย์อาจจะถูกซ่อนเอาไว้โดยที่ไม่มีใครรู้
น้อยครั้งอาจจะมีโอกาสน้อยมากที่เห็นสิ่งมหัศจรรย์ที่ว่า ขอแค่การใช้ชีวิตประจำวันอาจจะมีเรื่องให้ต้องใส่ใจมากแล้ว ทำให้อาจจะไม่เคยรู้ว่ามีปรากฏการณ์บางอย่างเกิดขึ้น ซึ่งนั่นถูกเรียกว่า “ฝนหิมะ”

ฝนหิมะ คืออะไร?
จริงๆแล้วคำนี้เป็นหนึ่งในคำสับสนสำหรับการใช้เรียกแทนสถานการณ์ที่เกิดขึ้น Sleet จึงกลายเป็นหนึ่งคำเนี่ยที่อาจจะต้องคุ้นชินกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ต้องบอกก่อนว่าสิ่งที่บางคนอาจจะเข้าใจได้ผิด นั่นก็คือเวลาที่เกิดฝนหิมะ บางคนอาจจะเรียกว่าเป็นลูกเห็บตก แต่จริงๆแล้วกลับไม่ใช่อย่างที่คิดเพราะฝนหิมะคืออีก 1 สถานการณ์ที่เป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ
ต้องบอกก่อนว่ารูปแบบใหนที่ว่านั้นเกิดจากการที่หิมะนั้นได้มีการละลาย และตกลงมาเป็นฝน แต่ก่อนที่จะถึงพื้นช่วงที่น้ำหิมะผ่านบริเวณกลางอากาศนั้นความเย็นหรืออุณหภูมิในอากาศเองก็ทำให้น้ำที่ละลายแล้วกลับไปแข็งตัวคล้ายกับหิมะเหมือนเดิม แต่จะมาในรูปแบบที่มีความน่ากลัวมากกว่าตรงที่พอลงมาสัมผัสกับบริเวณเสาไฟหรือต้นไม้ จะทำให้บริเวณเหล่านั้นไม่สามารถรับน้ำหนักได้ดีจนเกิดการเรียงตัวหรือเกิดการหักโค่นของต้นไม้
ซึ่งแน่นอนว่านั่นเป็นหนึ่งในปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่มีความแปลกใหม่และนับว่าน่าสนใจมากทีเดียว แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องบอกได้ว่าเป็นส่วนที่อันตรายด้วยเหมือนกันเนื่องจากว่าไม่สามารถจะรับรู้ได้เลยว่าขนาดหรือรูปแบบที่แท้จริงของฝนหิมะที่จะตกออกมานั้นจะเป็นแบบไหน เพราะฉะนั้นแล้วเวลาที่เกิดปรากฏการณ์ที่ว่าน้ำขึ้นก็ควรจะหลีกเลี่ยงการออกจากบ้านเพื่อป้องกันการอันตราย
ซึ่งแน่นอนว่าการที่จะเกิดปรากฏการณ์เหล่านี้ขึ้นนั้นบริเวณของชั้นบรรยากาศที่อยู่บริเวณนั้นจะต้องมีอุณหภูมิที่ต่ำกว่า 0 องศาเซลเซียสยิ่งถ้าหากว่าเป็นฤดูหนาวแน่นอนว่าอุณหภูมิจะมีความเย็นตัวลงมาก จึงไม่แปลกเลยถ้าหากว่าจะทำให้เกิดผลน้ำแข็งหรือเกล็ดหิมะมารวมตัวกัน ซึ่งในรูปแบบของผลหิมะนั้นยังมีอีกหลายประเภทเลยทีเดียว ในขณะเดียวกันก็ขึ้นอยู่กับความแตกต่างของสถานการณ์หรือเหตุการณ์เหล่านั้นที่อาจจะมีผล ที่ทำให้ตัวรูปแบบนั้นไม่เหมือนกัน

Cave of Swords ถ้ำคริสตัลอันตราย

คริสตัล หนึ่งในอัญมณีที่หลายๆคนอยากจะเก็บสะสมเอาไว้ในตู้เซฟ บางคนอาจจะเลือกมองที่ตัวราคา คุณค่า คนอาจจะเลือกมองที่รูปลักษณ์ภายนอกที่มีความสวยงามและแวววาว โดยเฉพาะผู้หญิงเวลาที่ถูกนำเอามาเป็นเครื่องประดับหรือของตกแต่งต่างๆคงทำให้รู้สึกมีอำนาจเพิ่มมากขึ้น

“อัญมณีเป็นสมบัติภายนอก แต่เมื่อเห็นรูปลักษณ์กลับเป็นคุณค่าของใจที่เลี่ยงไม่ได้ ต่อให้พยายามแค่ไหนก็ตาม”

และนั่นก็คงเป็นเรื่องที่ใครหลายคนปฏิเสธที่พูดถึงไม่ได้ และด้วยความน่าสนใจของอัญมณีชนิดที่ว่านั้น ทำให้ต้องรู้จักกับหนึ่งในสถานที่สุดพิเศษที่ว่ากัน โดยสถานที่ๆพูดถึงก็เป็นแหล่งของคริสัลโดยเฉพาะด้วย…

แหล่งคริสตัล ที่สวยระดับโลก
อย่างที่บอกว่าเป็นเรื่องที่ใครๆก็ปฏิเสธเรื่องนี้ไม่ได้ โดยสถานที่ที่กำลังจะพูดถึงนี้ คือ Cueva de las Espadas หรือ Cave of Swords ที่แปลเป็นภาษาไทยว่าถ้ำแห่งดาบ และนั่นก็พอจะทำให้มองรูปลักษณ์ออกแล้วว่าสิ่งที่ต้องการจะสื่อนั้นจะเป็นแบบไหน
โดยถ้ำแห่งนี้ได้รับการสำรวจและค้นพบในปีพ.ศ 2453 และสำหรับท่านแผ่นดินก็อยู่บริเวณใต้ดินที่ลึกไปถึง 120 เมตร ภายในถ้ำนั้นจะเห็นได้ว่าดูเป็นช่างที่มีความสวยงามแต่ก็ยังเสี่ยงอันตรายมากทีเดียว เนื่องจากว่าตัวของคริสตัลนั้นจะฝังอยู่ในชั้นหินปูนที่เป็นทั้งพื้นและผนังถ้ำ และยื่นออกมาคล้ายๆกับดาบ
แต่ในที่นี้ต้องบอกเลยว่าไม่ใช่ขนาดเล็กๆแต่อย่างใด หลายคนอาจจะเข้าใจผิดว่ายื่นมาเป็นแท่งเล็กๆ สามารถที่จะเดินผ่านได้แบบสบายๆ แต่บอกเลยว่าไม่ช่ เพราะจริงๆแล้วที่ยื่นออกมานั้น เรียกได้ว่ามีขนาดใหญ่พอๆกับต้นไม้อายุ 10 ปีขึ้นไป ที่สำคัญเป็นพื้นที่ที่อันตรายต่อมนุษย์อย่างมากเลยทีเดียว เนื่องจากว่ามีพื้นที่ขนาดใหญ่ ที่ต้องยอมรับเลยว่าถ้าพลาดล้มไปก็อาจจะออกมาไม่ได้อีกแน่ๆ ยิ่งทำให้หลายๆคนอาจจะไม่กล้าเสี่ยงไปที่นั่นด้วยซ้ำ
แต่นั่นก็เป็นเรื่องที่คิดถูก สาเหตุ : ผลึกแร่ Crystal จะกำเนิดขึ้นจากสภาพที่บริเวณนั้นมีไอร้อนหรืออุณหภูมิที่สูงเกินกว่า 50 องศาเซลเซียสรวมถึงมีความชื้นมาก เพราะฉะนั้นแล้วสำหรับสถานที่แห่งนี้ถ้าหากว่าเข้าไปอยู่ภายในถ้ำโดยที่ไม่ได้มีการสวมชุดป้องกันไม่เกิน 6 ถึง 10 นาที อาจเป็นอันตรายกับผู้ที่เข้าไปได้เลยเพราะมีผลต่อสุขภาพจิตเนื่องจากสภาพอากาศภายในที่ไม่เอื้ออำนวย
ฉะนั้นแล้วสำหรับสถานที่แห่งนี้แน่นอนว่าในทางวิทยาศาสตร์คงเป็นหนึ่งในแหล่งของการค้นพบสิ่งมหัศจรรย์มากมาย แต่ก็ต้องยอมรับว่าไม่ใช่ว่าคนธรรมดาจะสามารถเข้าไปได้ง่ายๆเพราะอย่างน้อยเลยคือจำเป็นจะต้องมีอุปกรณ์หรือที่เรียกว่าเครื่องป้องกัน

Raw Food Diet อาหารดิบที่มักเข้าใจผิด

“Raw Food Diet แค่ฟังชื่อก็คงจะรู้สึกแปลกกันแล้วแน่ๆ ลองนึกดูว่าถ้าแปลเป็นภาษาไทยอาหารที่ว่าก็คือ อาหารดิบ แค่นี้ก็คงจะยากต่อการรับประทานแล้ว”
แต่จริงๆอย่าพึ่งเข้าใจผิด!!! เพราะเอาเข้าจริงๆแล้วถึงแม้ว่า Raw Food Diet = อาหารดิบ แต่จริงๆแล้วอาหารดิบที่ว่าไม่ได้น่ากลัวขนาดนั้น และอาจจะไม่ได้เป็นแบบที่ทุกคนคิดเอาไว้ด้วยซ้ำไป งั้นเอาเป็นว่ามาลองทำความรู้จักกันหน่อยดีกว่า เผื่อจะได้รูปแบบการทานอาหารแบบใหม่ๆ
Raw Food Diet คืออะไร
หลักแล้ว “อาหารดิบ” ที่กำลังจะพูดถึง ไม่ใช่ว่าแบบเนื้อสัตว์ดิบๆมาทานเลย แต่ที่ว่าหมายความถึงอาหารสดที่ยังไม่ผ่านการแปรรูปแบบที่ยังไม่โดนขบวนการทางเคมีใดๆ จริงๆก็ขายอาหาร Organic ที่เน้นเรื่องของการไม่เติมแป้งและน้ำตาลเข้าไป ยิ่งไปกว่านั้นคือการทำอาหารประเภทนี้จะลดและเรื่องการปรุงอาหารด้วยความร้อนที่เกิน 46 องศาเซลเซียส
ถ้าจะถามว่าเป็นเพราะอะไรทำไมถึงจะต้องปรุงอาหารด้วยความร้อนที่ไม่เกิน 46 องศาเซลเซียส นั่นก็เป็นเพราะว่าการปรุงอาหารที่อุณหภูมิมากเกินไปจะทำให้คุณค่าทางสารอาหารที่ไม่ว่าจะเป็นทางวิตามินหรือแร่ธาตุต่างๆสลายไปได้อย่างรวดเร็ว นั่นคือเป็นสาเหตุที่ผู้ป่วยหรือผู้ที่กำลังต้องการได้รับการรักษานั้นเลือกที่จะทานอาหารประเภทนี้
ประเด็นคือการรับประทานอาหารที่มีการปรุงสุกในระดับอุณหภูมิตามที่ว่าถ้าหากว่าเป็นเนื้อสัตว์แน่นอนว่าเป็นหนึ่งในสิ่งที่มีอันตรายแน่นอน ซึ่งก็เป็นเพราะว่าบางครั้งการรับประทานเนื้อสัตว์อาหารอื่นๆที่เป็นของดิบจะทำให้แบคทีเรียหรือเชื้อโรคต่างๆที่อยู่ภายในอาหารยังไม่ถูกปรุงสุก ซึ่งก็มีโอกาสเสี่ยงที่จะทำให้เชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายได้อย่างรวดเร็ว
แต่ในขณะเดียวกันตามรับประทานอาหารประเภทนี้ก็ช่วยในเรื่องของการดูแลสุขภาพหลายๆอย่าง แต่ในด้านของการช่วยดูเลยจะมีอะไรอีกบ้างก็คงจะต้องมารอดูกัน
ช่วยดีท็อก : จะว่าไปการเลือกที่จะทานประเภทนี้ ข้อดีที่น่าสนใจหรือก็คือสามารถที่จะช่วยในการดีท็อกและขับสารพิษได้ดีเนื่องจากว่าอาหารที่รับประทานนั้นจะเป็นซึ่งมีทั้งสารอาหารและเส้นใยที่ดีต่อระบบเผาผลาญและช่วยให้เกิดการย่อยต่างๆได้ดี
ช่วยบำรุงผิวพรรณ : การรับประทานผักและผลไม้เมื่อร่างกายได้รับวิตามินหรือแร่ธาตุตามที่ต้องการก็จะสามารถเอาไปใช้ในการบำรุงระบบต่างๆภายในร่างกายทำให้ผิวพรรณดีขึ้นได้อีกด้วย
เอาชนะแล้วเมื่อเลือกที่จะรับประทานอาหารดึกแน่นอนว่านอกจากเรื่องของความสะอาดอย่างน้อยเลยประโยชน์ก็ถือว่าเป็นสิ่งที่น่าสนใจและอาจจะตอบโจทย์ได้ดีมากทีเดียว

Mediterranean Diet ทานแบบชาวทะเล
“Mediterranean Diet เป็นอีกหนึ่งรูปแบบของการรับประทานอาหารที่ได้รับความนิยมเป็นจำนวนมากพอสมควรในกลุ่มของคนที่กำลังมองหารูปแบบของการรับประทานอาหารที่เหมาะสมและตรงกับสไตล์ของตัวเอง”
และต้องบอกก่อนว่าสำหรับการรับประทานอาหารแบบ Mediterranean Diet จะว่าไปแล้วเป็นอีกแบบที่ได้รับความนิยมนั่นก็เป็นเพราะว่ารูปแบบของการรับประทานอาหารจะไม่ได้เหมือนกับการรับประทานแบบ vegan ถ้าจะให้เปรียบเทียบกับแบบวีแกนแน่นอนว่าอาจจะไม่ได้เคร่งเครียดเท่า เพราะว่ายังสามารถที่จะทานอาหารได้บ้างชนิด
Mediterranean Diet คืออะไร
ต้องบอกก่อนว่านี่ไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลยที่จะแยกให้ออกว่า Mediterranean Diet กับ Vegan เป็นเรื่องเดียวกัน แต่ใครจะไปคิดว่าทั้งสองแบบนี้ไม่ใช่แบบเดียวกัน เพราะอย่างที่บอกวีแกนจะเน้นเรื่องของการทานผักอย่างเดียว แต่สำหรับเมดิเตอเรเนียนจะเน้นไปทางกินผักก็จริง แต่ทั้งนี้ก็ยังสามารถที่จะทานอาหารอื่นๆเพิ่มเข้าไปได้
อย่างถ้าหากว่าต้องการจะทานเนื้อสัตว์ ในหนึ่งสัปดาห์ก็สามารถที่จะทานได้เช่นกัน ซึ่งสามารถที่จะเลือกทานเนื้อสัตว์ได้แถบทุกจะประเภทแบบที่ไม่ได้มีข้อแม้จำกัดแต่อย่างใดเลยแม้แต่น้อย รวมถึงยังสามารถที่จะรับประทานอาหารที่มาจากสัตว์ได้ไม่ว่าจะเป็นนม ชีส ไข่ น้ำผึ้ง และที่เน้นเลยก็ควรจะเป็นอาหารที่เป็นอาหารทะเลรวมถึงธัญพืชที่สามารถจะรับประทานได้อย่างเป็นปกติ
แต่จะให้ดีอาหารที่ควรจะหลีกเลี่ยงและไม่ควรทาน นั่นก็คือ น้ำตาล แป้งขัดสี สารให้ความหวาน น้ำมันพืชและอื่นๆที่เป็นไขมันที่อันตราย แน่นอนว่าอาจจะทำให้การไดเอทรูปแบบนี้ยิ่งเป็นไปได้ยากมากขึ้น เพราะอาจจะติดรสชาติแล้วทำให้ทานอาหารได้ยากมากขึ้น
แต่ถึงจะดูว่าเป็นการกินที่โหดร้ายแล้ว แต่เอาเข้าจริงๆแล้วถ้าจะถามว่าอยากจะลองปรับตัวดูแต่ไม่อยากที่จะให้เยอะจนเกินไป ก็เป็นการเริ่มต้นแบบง่าย อย่างเช่นการเริ่มต้นในการตัดบางอย่างออก เช่น เครื่องปรุงบางอย่างอาจจะตัดออกแล้วเปลี่ยนาใช้เป็นสมุนไพรแทน แต่ในมุมของสมันไพรก็จะเป็นแนวโรสแมรี่ ไทม์ พาร์สลีย์ ใบมินต์ ที่สามารถจะให้รสชาติและความรู้สึกได้เหมือนกัน แต่ในขณะเดียวก็ไม่ต้องกังวลเรื่องรสชาติ
และตามงานวิจัยที่ออกมาในยุคปัจจุบันกล้าพูดเลยว่าสำหรับการเลือกที่จะทานอาหารประเภทนี้สามารถที่จะให้การเลือกทานอาหารเพื่อสุขภาพเป็นไปได้อย่างที่ต้องการ แน่นอนว่าหลายๆคนก็คงยังจะอยากลองอะไรใหม่ๆ แต่บางครั้งการลองปรับเปลี่ยนพฤติกรรมแบบง่ายๆดู ก็เป็นเรื่องที่น่าสนใจถูกแล้วใช่หรือไม่ อย่างน้อยลองดูกันบ้างก็คงจะไม่เสียหายอะไรเลยแม้แต่น้อย

Vegan Diet เคร่งครัดกว่าแบบที่เคยเป็นมา

“Vegan Diet เป็นรูปแบบของอาหารที่ได้ยินกันมาโดยตลอด แต่จริงๆแล้วอาจจะได้ยินในอีกเครื่องนึงที่เรียกกันว่า vegan food ซึ่งอาจจะดูเป็นคำที่คุ้นหูมากกว่าที่จะเรียกในแบบแรก”
แน่นอนว่าถ้าเป็นภาษาอังกฤษบางคนอาจจะยังเดาไม่ออกว่าสิ่งที่ต้องการจากสื่อสิ่งนั้นคืออะไร แต่ถ้าหากจะให้เป็นภาษาไทยสิ่งที่สามารถสื่อและแปรได้อย่างชัดเจนมากที่สุดก็คือการรับประทานอาหารแบบมังสวิรัติ โดยการทานอาหารในรูปแบบที่พูดถึงนั้นส่วนใหญ่เราจะมักได้ยินว่าเกิดขึ้นบ่อยๆในช่วงเวลากินเจ แต่จริงๆแล้วยังมีรายละเอียดที่ลึกมากไปกว่านั้นและควรจะต้องรู้ งั้นเอาเป็นว่าอย่ารอช้ามาดูกันเลยดีกว่า
Vegan Diet คืออะไร
สำหรับการรับประทานอาหารแบบวีแกน อย่างที่แปลให้ได้เห็นกันไปก่อนหน้านี้แล้วว่าเป็นการเลือกรับประทานอาหารแบบมังสวิรัติเพราะฉะนั้นแล้วถ้าหากจะถามถึงความเคร่งครัดหรือตามความเหมาะสมที่ควรจะเป็น แน่นอนว่าการรับประทานอาหารประเภทนี้จะรับประทานอาหารได้แบบเคร่งครัดมากกว่า เพราะฉะนั้นแล้วก็จะต้องระมัดระวังในการเลือกรับประทานอาหารพอสมควร
เพราะถ้าหากมองกันตามหลักความเป็นจริงแล้วการรับประทานอาหารประเภทนี้จะเน้นเรื่องของการรับประทานอาหารแบบที่มีแต่ผัก และแทบจะไม่แตะเนื้อสัตว์เลยด้วยซ้ำไป และไม่ใช่แม้กระทั่งเรื่องของเนื้อสัตว์เพียงอย่างเดียวเท่านั้นที่จะไม่รับประทาน เพราะแม้กระทั่งผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากฝันก็จะเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่คนที่เลือกรับประทานอาหารรูปแบบนี้จะไม่ทานด้วยเหมือนกัน
โดยผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากเนื้อสัตว์ที่เลือกจะไม่รับประทานกันนั้นรวมๆแล้วก็จะมีตั้งแต่เรื่องของ นม เนย ชีส ไข่ และแม้แต่กระทั่งน้ำผึ้งเองก็จะเลี้ยงเอาไว้ในส่วนที่ไม่สามารถจะรับประทานได้ เพราะตามหลักแล้วจะถือคติเรื่องของการรับประทานอาหารแบบที่ไม่เบียดเบียนสัตว์
แต่สำหรับการเลือกรับประทานอาหารประเภท vegan สามารถที่จะทานธัญพืชได้ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นผัก หรือเมล็ดอะไรก็ตาม เพราะแน่นอนว่าถ้าหากมีโอกาสได้รับประทานอาหารที่เป็นจำพวกผักหรือการรับประทานพืชก็จะทำให้ร่างกายได้รับโปรตีนที่เพียงพอแต่ทั้งนี้อาจจะต้องมีการรับประทานอาหารเสริมประเภทเพื่อที่จะให้ร่างกายได้รับสารอาหารอย่างที่ต้องการ
จะเห็นได้ว่าบางคนที่รับประทานอาหารประเภท vegan มากเกินไปโดยที่ไม่คำนึงถึงสารอาหารประเภทอื่นๆอาจจะทำให้เกิดอันตรายตามมาได้ในภายหลัง แต่อย่างน้อยการรับประทานอาหารประเภทมีแกนนำหมายความว่าจะต้องมีการเสริมในเรื่องของการออกกำลังกายควบคู่กันไปเพื่อที่จะให้ร่างกายสามารถนำอาหารและวิตามินส่วนต่างๆไปใช้ได้อย่างเกิดประโยชน์โดยที่แถบจะไม่ต้องทำอะไรเพิ่มเติม

Blood type Diet กรุ๊ปเลือดเปลี่ยนพฤติกรรม

“Blood type Diet การรับประทานอาหารที่คงจะต้องเคยได้ยินกันมานานยิ่งพากย์ไทยที่เล่น Facebook บ่อยๆจะเห็นเลยว่าจะมีหลายๆเพจที่ทำเรื่องราวเกี่ยวกับการรับประทานอาหารประเภทนี้ออกมา”
ซึ่งแน่นอนว่าหลายคนอาจจะเคยได้ยินแต่ยังไม่เคยรู้จักกันดีเท่าไหร่เพราะฉะนั้นแล้วก็คงจะเป็นประโยชน์มากกว่าถ้าในวันนี้ได้มีการเรียนรู้ในเรื่องของการรับประทานอาหารประเภทนี้มากขึ้น เพราะฉะนั้นแล้วมาทำความรู้จักกันเลยดีกว่า
Blood type Diet คืออะไร
ถ้าหากว่าจะให้แปลตรงตัวตามชื่อก็คงจะพอแปลกันออกอยู่แล้วว่าเรื่องที่กำลังจะพูดถึง นั่นก็หมายถึงการเลือกรับประทานอาหารตามกรุ๊ปเลือด เพราะโดยปกติแล้วมนุษย์เราจะแบ่งกรุ๊ปเลือดหลักๆออกเป็น 4 ประเภท คือ A B AB O ซึ่งตามหลักแล้วทั้ง 4 ประเภทนี้จะมีรูปแบบของการรับประทานอาหารที่ไม่เหมือนกัน เนื่องจากว่ากรุ๊ปเลือดแต่ละชนิดนั้นจะสามารถย่อยโปรตีนได้ต่างชนิดกัน
ดังนั้นเมื่อเลือกที่จะกินตามกรุ๊ปเลือดแน่นอนว่าอย่างน้อยเลยก็ช่วยให้ระบบร่างกายสามารถที่จะทำงานได้ง่ายมากขึ้น และแน่นอนว่ารูปแบบของการรับประทานอาหารแบบนี้จะเป็นสิ่งที่แพทย์แนะนำเป็นอย่างมาก เพราะจากงานวิจัยหลายๆแห่งมีการค้นพบว่าเลือกแต่ละประเภทจะมีความต้องการสารอาหารหรือวิตามินที่แตกต่างกันมากทีเดียว ซึ่งบางประเภทถ้าหากว่าได้รับมากจนเกินไปก็อาจจะทำให้เกิดผลเป็นกรดหรือพิษในร่างกายได้นั่นเอง
โดยปัจจุบันการรับประทานอาหารตามกรุ๊ปเลือดนั้นไม่ใช่เรื่องแปลกประหลาดอีกต่อไปแค่แต่ละคนจะต้องสามารถจดจำให้ได้ว่าอาหารหรืออะไรบ้างที่ไม่สามารถจะรับประทานได้ เพราะจะเห็นได้ชัดว่าถ้าหากรับประทานอาหารต้องห้ามดื่มน้ำมากจนเกินไปปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นเลยนั่นก็คือร่างกายแสดงอาการแพ้อย่างเห็นได้ชัด โดยอาจจะออกมาเป็นอาการภูมิแพ้หรือโรคต่างๆ
ซึ่งนอกจากเรื่องของการรับประทานอาหารแล้วอีกหนึ่งเรื่องที่ควรจะต้องรู้เอาไว้นั่นก็คือการออกกำลังกาย เพราะจะเป็นกิจกรรมที่มีผลต่อเรื่องของการเลือกรับประทานอาหารด้วยเช่นเดียวกัน ยิ่งถ้าออกกำลังกายได้ถูกประเภทและรูปแบบก็จะทำให้ร่างกายสามารถเผาผลาญได้ดีมากยิ่งขึ้น
และการศึกษาเรื่องการรับประทานอาหารตามกรุ๊ปเลือดก็แค่ศึกษาเพียงเรื่องของตัวเองเท่านั้นจะได้รู้อย่างชัดเจนว่าอะไรที่ควรรับประทานหรืออะไรที่ควรจะหลีกเลี่ยง อย่างน้อยๆเลยนี่ก็เป็นเรื่องที่ควรจะต้องรู้
แต่ถ้าหากว่ายังไม่มั่นใจว่าจะเลือกรับประทานแบบไหนถึงจะเหมาะสมมากที่สุดนั้นการปรึกษากับแพทย์จะได้คำตอบและคำแนะนำที่ดีที่สุด เนื่องจากว่าร่างกายของบางคนอาจจะต้องได้รับสารอาหารบางอย่างเพิ่มเติมจึงจะต้องมีการปรึกษากับแพทย์ให้ดีที่สุด

The Paleo Diet เลือกกินแบบยุคหิน

“The Paleo Diet เป็นหนึ่งในรูปแบบของการเลือกรับประทานอาหารในปัจจุบันที่ถูกนำเอามาปรับเปลี่ยนให้มากขึ้น”
ในนิยามของใครหลายๆคนมองว่าการรับประทานอาหารแบบพาเลโอไดเอท ถูกนิยามขึ้นมาอีกหนึ่งคำว่าเป็นการรับประทานอาหารแบบยุคหิน แค่ฟังก็คงจะไม่เข้าใจแล้วว่าการเลือกรับประทานอาหารแบบที่เห็นที่ว่านั้นคืออะไรบางคนอาจจะเกิดความสับสนด้วยซ้ำไป ต้องบอกก่อนว่าในมุมของการเลือกรับประทานอาหารแบบยุคหิน ไม่ใช่การเน้นไปทางด้านของอุปกรณ์การทำอาหาร แต่ว่าจะเป็นอย่างไรนั้นมาลองทำความรู้จักกันเลยดีกว่า
พาเลโอไดเอท คืออะไร
สำหรับรูปแบบของการรับประทานอาหารแบบนี้จะเน้นการรับประทานอาหารคล้ายกับมนุษย์ที่อยู่ในยุคหิน หรือเป็นช่วงวิวัฒนาการที่มนุษย์อาศัยอยู่เมื่อ 10,000 ปีก่อน ซึ่งในยุคหนังรูปแบบของการรับประทานอาหารของมนุษย์ส่วนใหญ่ก็จะเป็นการรับประทานอาหารแบบง่ายๆไม่ได้ยุ่งยากหรือวุ่นวายมากเกินไปนะเนื่องจากในอดีตยุคนั้นยังไม่มีเรื่องของเครื่องปรุงหรืออุปกรณ์สำหรับการทำอาหารสมัยใหม่มากเท่าไหร่ เพราะฉะนั้นแล้วก็จะไม่ได้มีความยุ่งยากหรือควายแบบยุคปัจจุบัน
ซึ่งถ้าหากจะพูดกันแบบง่ายๆคือการเลือกรับประทานอาหารพี่เน้นไปในทิศทางของเนื้อสัตว์เรียกได้ว่าเป็นการเพิ่มให้ร่างกายได้รับปริมาณของโปรตีนมากกว่าปกติ โดยรูปแบบของการรับประทานนั้นก็นับว่าง่ายมากที่เดียวเพราะการเลือกทานที่ว่านั้นสามารถทำได้แค่การทานเนื้อสัตว์ที่ไม่ติดมัน ปลาและผักที่สามารถหาได้ง่ายๆ ผลไม้ เมล็ดพืช
แน่นอนว่าอาหารที่สามารถรับประทานได้เหล่านี้จะไม่มากปรุงอะไรเพิ่มเติมได้เพราะจะทำให้ไม่มีความเป็นธรรมชาติและเสี่ยงต่อการเกิดการสะสม
ซึ่งประโยชน์ของการทานแบบที่ว่าจะช่วยเป็นอย่างมากในเรื่องของการป้องกันการเกิดปัญหาสุขภาพอื่นๆตามมาที่ไม่ว่าจะเป็นปัญหาทางด้านโรคอ้วน โรคเบาหวาน หรือแม้แต่กระทั่งโรคหัวใจ ซึ่งโรคเหล่านี้เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในความเสี่ยงที่อันตรายมากทีเดียว
แต่ในขณะเดียวกันถ้าหากว่าใครที่ยังไม่ชินกับการเลือกทานอาหารแบบพาเลโอไดเอท แนะนำว่าให้เลือกทานเฉพาะอาหารปรุงสุกใหม่ๆหรือการเลือกรับประทานอาหารที่เครื่องปรุงส่วนใหญ่นั้นเป็นเครื่องปรุงที่มาจากวัตถุดิบทางธรรมชาติ
เนื่องจากว่าถ้าทานแบบที่ตามต้นฉบับที่เคยรับประทานกันมาแน่นอนว่าปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นเลยนั่นก็คือ คนที่เพิ่งเคยรับประทานใหม่อาจจะยังไม่ชินแล้วไม่สามารถที่จะทำต่อได้เหมือนกับการสื่อในการรับประทานอาหารเพราะฉะนั้นแล้วก็จะต้องรู้ว่าอะไรที่ควรจะปรับปรุงให้เหมาะสม

หยาดน้ำค้างพืชแปลกๆ สร้างสมดุลธรรมชาติ

หยาดน้ำค้าง ถ้าใครได้ยินก็คงคิดว่าเป็นหนึ่งในชื่อของพืชพรรณหรือดอกไม้ประเภทหนึ่งที่มีความสวยงามตามชื่อ โดยเฉพาะความอ่อนหวานความละเอียดอ่อนแบบผู้หญิง แต่กลับไม่เป็นอย่างที่คิดเลยแม้แต่น้อย
เพราะจริงๆแล้วถึงแม้ว่าชื่อจะสวยงามมากแค่ไหน แต่ถ้าหากได้ลองศึกษา จริงๆแล้วกลับไม่ได้เป็นไปอย่างที่คิด เพราะว่าจริงๆแล้วอยากนำทางที่พูดถึงคือหนึ่งในสายพันธุ์ของพืชกินแมลงที่มีลักษณะที่แปลกประหลาดที่สุดในโลก และจริงๆแล้วสายพันธุ์ของพืชกินแมลงนับว่ามีอยู่หลากหลายทีเดียว
สิ่งหนึ่งที่บางคนอาจจะเข้าใจผิดคือจริงๆแล้วต้นหยาดน้ำค้างนั้นมีความต่างกับต้นจอกบ่วายมากทีเดียว เอาจริงแล้วด้วยลักษณะที่ถ้าหากว่าเป็นอย่างนั้นค้างก็จะเป็นต้นที่มีส่วนคล้ายๆกับแหง่งยื่นออกมา และบริเวณส่วนนั้นก็จะมีก้านโดยตรงปลายนั้นจะมีปุ่มกลมๆคล้ายกับน้ำค้าง แน่นอนว่าสามารถที่จะล่อแมลงได้เป็นอย่างดี
ที่สำคัญเมื่อจับแมลงได้แล้วตัวปลายที่ยื่นออกไปนั้นก็จะทำการม้วนขดเอาตัวแมลงกลับมา จริงๆก็คล้ายกับงูรัดเหยื่อ ซึ่งก็จะเป็นการยืนยันแบบถาวรว่าเหยื่อจะไม่สามารถหลุดออกไปอีกได้ และทั้งนี้ไม่ใช่แค่รัดให้ตายเพียงอย่างเดียว เพราะเอาเข้าจริงๆแล้วก็จะมีการใช้เมื่อที่อยู่ในตัวผลิตออกมาเพื่อที่จะช่วยในการย่อยสลายแมลงหรือสัตว์ที่สามารถจับได้
แต่ต้องบอกก่อนว่าถึงแม้จะอยู่ในวงศ์เดียวกัน แต่เมื่อมีรูปลักษณ์หรือรูปแบบที่แตกต่างกันออกไปแน่นอนว่าสิ่งเหล่านี้จะถูกพัฒนาขึ้นมาให้รองรับกับบริเวณพื้นที่จมูก สำหรับบางแบบที่เป็นคล้ายๆก้านยื่นออกมาก็จะพบได้ทุกทวีปทั่วโลก แต่ทั้งนี้อาจจะมีข้อกำหนดในทวีปแอนตาร์กติกาที่ไม่สามารถพบได้ หรือแบบที่เป็นคล้ายกับดอกไม้วางอยู่บนพื้นแต่บริเวณโดยรอบมีก้านและส่วนปลายที่ยืมไปใช้กับน้ำค้าง แน่นอนว่ารูปแบบนี้จะแอบซ่อนอยู่บริเวณเนินภูเขาต่างๆ ซึ่งจะต้องระมัดระวังในการเดินทางเขาถ้าเผลอไปเหยียบก็อาจจะเกิดอันตรายได้
โดยในประเทศไทยเองนั้นก็สามารถที่จะคบได้ถึง 3 สายพันธุ์ เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งใน ความพิเศษจากธรรมชาติที่ถูกมอบให้โดยเฉพาะ โดยทั้งสามสายพันธุ์นั้นมีดังนี้
1.จอกบ่วาย
2.หญ้าน้ำค้าง
3.หญ้าไฟตะกาด
เรียกได้ว่าทั้งสามสายพันธุ์นั้นก็มีความพิเศษในตัวเองและอาจจะต้องระมัดระวังถึงแม้ว่ารูปแบบทำให้ดูสวยงามจนชวนหลงใหล แต่ก็กล้าพูดได้เลยว่ามีบางสิ่งบางอย่างที่สามารถล่อแมลงได้เป็นอย่างดี และพื้นที่ที่สามารถขึ้นได้นั้นก็มีข้อจำกัดในเรื่องของความไม่สมบูรณ์ของพื้นที่อยู่แล้ว จึงยิ่งควรระวัง

คาร์โบไฮเดรต 2 ประเภทที่ร่างกายต้องรู้จัก (1)

คาร์บ หรือ คาร์โบไฮเดรต 1 ในหมู่อาหารที่ภายใน 1 วันมนุษย์จะต้องได้รับสารอาหารชนิดใดเข้าสู่ร่างกาย หากจะมองเห็นถึงความสำคัญก็เป็นเรื่องของการช่วยกระตุ้นให้ร่างกายทำงานในระบบเผาผลาญ หากว่ามีการงดคาร์โบไฮเดรตแบบที่ไม่ให้เข้าสู่ร่างกายเลย จะเป็นสิ่งที่ทำให้เกิดปัญหาต่อเรื่องของระบบการเผาผลาญพลังงานต่างๆภายในร่างกาย
คนโดยทั่วไปอาจจะไม่ค่อยเข้าใจกันสักเท่าไหร่ว่าสำหรับคาร์โบไฮเดรต ถึงจะดูเป็นสารอาหารแหล่งที่ร่างกายต้องการก็จริงแต่เป็นเพราะอะไรที่สุดท้ายแล้วยังเป็นข้อเสีย
ต้องเข้าใจก่อนว่าคาร์โบไฮเดรตสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท ที่สำคัญยังมีการแสงอยู่ในอาหารแทบทุกประเภท โดยจะมีการแบ่งดังนี้
คาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน จะเป็นคาร์โบไฮเดรตที่ยังไม่ผ่านการแปรสภาพ อย่างเช่นแป้งไม่ขัดสี ขนมปังธัญพืช หรือธัญพืชอื่น
คาร์โบไฮเดรตเชิงเดี่ยว จะเป็นคาร์โบไฮเดรตที่ผ่านการแปรสภาพหรือแปรรูปแล้ว อย่างเช่นข้าวขาว ขนมปังขาว น้ำตาล
แต่ทั้ง 2 ประเภทนั้นก็จะมีความแตกต่างกันไป สำหรับบทความนี้เราจะมาทำความรู้จักกับคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนก่อน
คาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน คาร์บที่ร่างกายต้องการ…..
ในส่วนของคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนที่พูดถึงจะเป็นคาร์โบไฮเดรตที่ยังไม่ผ่านการแปรสภาพหรือแห้งที่ยังไม่เกิดการขัดสี เพราะฉะนั้นแล้วคุณค่าทางวิตามินและแร่ธาตุหลายๆอย่างก็จะยังคงอยู่ในสภาพเดิม โดยเฉพาะเส้นใยอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย
ซึ่งเมื่อแร่ธาตุหรือวิตามินต่างๆ ที่มีอยู่ในคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนยังไม่ถูกขัดสีแน่นอนว่านอกจากร่างกายจะได้รับสารอาหารเหล่านี้เต็มที่แล้ว การแปรรูปจากคาร์โบไฮเดรตไปเป็นน้ำตาลนั้นก็จะยังช้าอยู่มาก เพราะฉะนั้นแล้วถ้าหากว่าต้องการจะควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดการรับประทานคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนจะเป็นทางเลือกหนึ่งที่ทำให้ร่างกายได้รับปริมาณน้ำตาลที่ต่ำ
โดยเฉพาะใครที่ต้องการจากดูแลหรือควบคุมในปริมาณของน้ำหนักต้องบอกเลยว่าการเลือกทานคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน เป็นทางเลือกที่ดีและที่สำคัญอย่างช่วยให้อิ่มได้อย่างยาวนานและไม่ต้องรับประทานวิตามินเสริมเพราะร่างกายจะได้รับวิตามินที่จำเป็นอยู่แล้ว
หากว่าภายในบ้านมีผู้สูงอายุหรือผู้ที่กำลังป่วยเป็นโรคต่างๆการปรับเปลี่ยนให้มาทานคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนอาจจะช่วยลดปัญหาของการเกิดโรคได้ เพราะส่วนใหญ่แล้วต้นเหตุของการเป็นโรคต่างๆนั้นก็มาจากเรื่องของการรับประทานอาหาร ยิ่งถ้าสามารถควบคุมการรับประทานอาหารให้ได้รับอย่างเหมาะสมมากเท่าไหร่การรักษายิ่งเป็นเรื่องง่ายเข้าไปมากเท่านั้น
แต่ในครั้งนี้อาจจะพูดคุยกันได้แค่ในเรื่องของคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน แต่สำหรับคาร์โบไฮเดรตเชิงเดี่ยวเราอาจจะยังต้องรอติดตามกันว่าจริงๆแล้วคาร์โบไฮเดรตเชิงเดี่ยวที่พูดว่าอันตราย อันตรายถึงขั้นไหนหรือมีข้อเสียอะไรอีก อย่าลืมติดตามรอกัน!!

คาร์โบไฮเดรต 2 ประเภทที่ร่างกายต้องรู้จัก (2)

ครั้งที่แล้วที่มีโอกาสได้พูดถึงเรื่อง คาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน หรือจะเรียกอีกอย่างว่า คาร์บดี ที่ถ้าหากว่าร่างกายได้รับในปริมาณที่เหมาะสมและเพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย ก็สามารถที่จะช่วยเรื่องของการควบคุมน้ำหนักและป้องกันโรคต่างๆได้ดี
ในเวลาเดียวกันคาร์โบไฮเดรตไม่ใช่ว่าจะมีแต่ด้านดีเพียงอย่างเดียว บางครั้งสิ่งที่เคยได้ยินว่าการรับประทานคาร์โบไฮเดรตเยอะๆจะเป็นผลเสียต่อร่างกาย เรียกได้ว่าเป็นการเพิ่มปริมาณน้ำตาลให้กับร่างกายโดยที่ไม่ลงตัว ถ้าคนส่วนใหญ่จะเข้าใจว่าคาร์โบไฮเดรตนั้นเป็นแป้งชนิดหนึ่ง แต่ไม่เคยรู้เลยว่าเมื่อมีการรับประทานแป้งสิ่งนี้ก็จะสามารถแปรเปลี่ยนเป็นน้ำตาล และทำให้เกิดการสะสมในร่างกาย
คาร์โบไฮเดรตเชิงเดี่ยว ดูจะเป็นหนึ่งในประเภทที่กำลังถูกพูดถึงอยู่เลยทีเดียว จริงๆแล้วยังเป็นสิ่งที่เรายังเกิดความสับสนกันอยู่ว่าระหว่างเชิงซ้อนกับเชิงเดี่ยวที่พูดถึงนั้นเป็นอย่างไร แล้วถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้จะรู้จักเชิงซ้อนกันไปแล้วก็ควรที่จะต้องจักกับเชิงเดี่ยวด้วย
คาร์โบไฮเดรตเชิงเดี่ยว คือ?
จะว่าไปคาร์โบไฮเดรตเชิงเดี่ยว ที่ว่าเรียกอีกชื่อว่า คาร์โบไฮเดรตชนิดไม่ดี และบางคนก็คงจะพอเข้าใจกันอยู่บ้างแล้วว่าเป็นคาร์โบไฮเดรตที่ผ่านเรื่องของการแปรรูปไม่ว่าจะเป็นการขัดสี หรือการดัดแปลงอื่นเพื่อที่จะทำให้รสชาติที่รับประทานนั้นน่าสนใจมากขึ้น และที่สำคัญอาจจะมีการเติมสิ่งที่เรียกว่าสารกันบูดหรือกลิ่นสังเคราะห์ต่างๆ เพื่อที่จะทำให้รู้สึกน่ากินมากขึ้น
แต่คนทั่วไปอาจจะไม่ค่อยรู้ว่าจริงๆแล้วถ้าหากว่ามีการใส่สารปรุงแต่งเหล่านี้เข้าไปในคาร์โบไฮเดรตเชิงเดี่ยว ดูจะเป็นหนึ่งในตัวกระตุ้นสำคัญที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของคาร์โบไฮเดรตเชิงเดี่ยวเป็นน้ำตาลได้อย่างรวดเร็ว และไม่แปลกเลยที่ทำไมบางคนเลือกรับประทานคาร์โบไฮเดรตเชิงเดี่ยวอยู่แล้วปริมาณน้ำตาลขึ้นสูง หากจะถามว่าคาร์โบไฮเดรตคือเดี๋ยวนะมีอะไรบ้าง ตัวอย่างเช่น
ขนมเค้ก
ข้าวขาว
พาสต้า
ขนมปังจากแป้ง
ขนมขบเคี้ยว
และจริงๆยังมีอีกหลายประเภทเลยทีเดียวที่ถูกเรียกว่าเป็นคาร์โบไฮเดรตเชิงเดี่ยว ซึ่งปัญหาคือเวลาที่รับประทานมากเกินไปอาจจะมีผลต่อร่างกายไม่ว่าจะเป็นเรื่องของระดับน้ำตาลในเลือดสูง ปริมาณแคลอรี่เพิ่มขึ้น และที่สำคัญอาจจะเป็นเหตุของการทำให้เกิดโรคร้ายรวมถึงโรคอื่นตามมา ไม่ว่าจะเป็นโรคอ้วน โรคเบาหวาน หรือแม้แต่กระทั่งโรคมะเร็ง ทำให้การใช้ชีวิตหรือพฤติกรรมปกติในชีวิตนั้นต้องเปลี่ยนไป
เพราะฉะนั้นแล้วถ้าจะให้ดีการหลีกเลี่ยงในการเลือกที่จะรับประทานคาร์โบไฮเดรตเชิงเดี่ยว ดูจะเป็นความคิดที่ดีแต่ถ้าหากว่าไม่สามารถที่จะหลีกเลี่ยงได้ การกำหนดปริมาณหรือความเหมาะสมของการรับประทานเข้าไป ก็อาจจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า