พืชปลอดสารพิษ

พายเบอรี่ สตอเบอรี่ ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่มากประโยชน์ที่ในตอนนี้เราสามารถที่จะเห็นได้ง่ายๆทั้งในซุปเปอร์มาเก็ตหรือตลาดโดยทั่วไป แต่ใครจะรู้ว่าในปัจจุบันมีการพัฒนาสายพันธุ์ไปจนถึงขั้นรูปแบบที่แตกต่างหรือแปลกออกไป

ที่เรียกกันว่า พายเบอรี่ หรืออีกชื่อนึงคือสตอเบอรี่สีขาว ขอดูรูปลักษณ์ภายนอกก็มีความคล้ายคลึงกับสตอเบอรี่โดยทั่วไปที่เห็นกัน แต่ทั้งนี้จะแตกต่างแค่เพียงเรื่องของสีที่เป็นสีขาวและมีสีชมพูจางๆ ถือว่าเป็นอีกหนึ่งผลไม้ที่มีความน่ารักมากทีเดียว

จะว่าไปการที่ได้ขึ้นชื่อว่า พายเบอรี่ ก็เป็นเพราะว่ารูปทรงนั้นเหมือนสตอเบอรี่โดยทั่วไป แต่ถ้าพูดถึงเรื่องของกลิ่นและรสชาติบอกเลยว่ามีความแตกต่างกับสตอเบอรี่ หอด้วยกลิ่นและรสชาตินั้นจะให้ความรู้สึกเหมือนได้รับประทานสับปะรด มั่นใจว่าในตอนนี้ใครหลายๆคนคงมีความรู้สึกอยากที่จะได้ทดลองผลไม้ชนิดนี้แล้ว

เอาเข้าจริงๆพายเบอร์รี่เพิ่งจะได้รับความนิยมในประเทศไทยได้ไม่นาน แต่ถ้าหากว่าเป็นต่างประเทศแน่นอนว่าโดยเฉพาะอเมริกาใต้กลับกลายเป็นผลไม้พื้นบ้านของทางนั้น เนื่องจากผลไม้ชนิดนี้นับว่าเป็นผลไม้ป่าเพราะฉะนั้นแล้วในส่วนของการพัฒนานั้นก็อาจจะไม่ได้เกิดอะไรขึ้น แต่ทั้งนี้เมื่อเรื่องใกล้ที่จะเข้าสู่สภาวะของการสูญพันธุ์มนุษย์เลยได้มีการนำมาปลูกและทดลองเลี้ยง

เพราะฉะนั้นแล้วถ้ามีโอกาสได้ไปดูจะรู้เลยว่าวิธีการเลี้ยงนั้นมีการใส่ใจในเรื่องของรายละเอียดแม้กระทั่งเรื่องราวเล็กน้อย ถ้าใครเคยได้ยินการเลี้ยงหมูหรือวัวที่ให้ดื่มเบียร์หรือฟังเพลงเพื่อเป็นการผ่อนคลาย รายการสำหรับการเลี้ยงพายเบอรี่ ที่จะมีการเอาใจใส่บางส่วนหรือบางความที่เลี้ยงก็อาจจะมีการเปิดเพลงคลาสสิคคลอไปด้วย

ในปัจจุบันสำหรับการพบเจอกับผลไม้ประเภทนี้เราสามารถที่จะพบเจอได้ในประเทศญี่ปุ่นก็มีและในประเทศไทยเริ่มมีเอามาวางขายกันมากขึ้น

แต่ถ้าจะว่าด้วยเรื่องของราคาในปัจจุบันก็ถือว่าเป็น 1 ในราคาผลไม้ที่แรงพอสมควร เพราะฉะนั้นแล้วก็ไม่แปลกว่าเป็นเพราะอะไรทำไมในตอนนี้คนส่วนใหญ่ถึงเริ่มให้ความสนใจ

อีกอย่างหนึ่งที่คนไม่ค่อยรู้คือด้วยความที่ผลเบอร์รี่ชนิดนี้มีความหอมเฉพาะตัวและเป็นเอกลักษณ์ ดังนั้นจึงถูกนำมาใช้เป็นสารสกัดสำหรับน้ำหอมที่สำคัญยังสามารถเอามาผสมใส่กับสกินแคร์เพื่อช่วยในการบำรุงผิวได้

เพราะหลักๆแล้วสารสกัดของเบอร์รี่ชนิดนี้จะสามารถช่วยในเรื่องของการต้านอนุมูลอิสระ ที่สำคัญยังมีแร่ธาตุและวิตามินอื่นๆมากมายที่จะช่วยในการบำรุงผิวให้ชะลอวัยและเกิดความสม่ำเสมอ โดยเฉพาะในยุคปัจจุบันที่ปัจจัยหรือสภาพแวดล้อมโดยทั่วไปอันตรายมากทีเดียว

พืช GMOs หรือ พืชดัดแปลงพันธุกรรม คือ พืชที่ได้รับการคัดเลือกให้มาผ่านกระบวนการทางพันธุวิศวกรรม(Genetic Engineering) เพื่อที่จะให้พืชชนิดนั้นมีคุณลักษณะหรือคุณสมบัติที่จำเพาะเจาะจงตรงตามความต้องการ เช่น พืชที่ทนต่อสภาพดินฟ้าอากาศที่ไม่เอื้อต่อการเจริญเติบโต, พืชที่มีความสามารถต้านทานแมลงศัตรูพืชได้, พืชที่มีสารอาหารทางโภชนาการหรือสารชีวโมเลกุลบางชนิดที่เพิ่มขึ้น เช่น มี โปรตีน หรือ วิตามิน หรือ ไขมัน ที่เพิ่มขึ้น   พืช GMOs  จะผ่านการตัดต่อยีน(Gene) จากกระบวนการทางพันธุวิศวกรรม หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า “Transgenic Plant”  ยกตัวอย่าง           พืชจีเอ็มโอ (พืช GMOs) ที่ได้มีการวางจำหน่ายแล้วตามท้องตลาดในปัจจุบัน เช่น ข้าวโพด, มะเขือเทศ, ถั่วเหลือง, ฝ้าย, มันฝรั่ง, มะละกอ, สควอช (Squash) และ คาโนลา (Canola)

กระบวนการทำให้พืชธรรมดา กลายเป็น พืช GMOs ต้องใช้เทคนิคในการถ่ายฝากยีนเข้าสู่พืชเพื่อให้พืชนั้นสามารถแสดงออกในลักษณะตามที่ต้องการโดยการส่งถ่ายสารพันธุกรรม ที่มาจากยีนหรือจากแบคทีเรียเข้าสู่ภายในเซลล์ของพืชชนิดนั้น เมื่อสารพันธุกรรมแทรกตัวเข้าสู่จีโนม หรือ DNA ของพืชชนิดนั้นแล้วก็จะแสดงลักษณะตามยีนที่แทรกตัวเข้าไปซึ่งลักษณะทางพันธุกรรมนี้สามารถถ่ายทอดไปรุ่นต่อไปได้

วิธีหลักที่ใช้กันในปัจจุบัน มี 2 วิธีคือ

• ใช้จุลินทรีย์ เรียกว่า Agro-Bacterium เป็นพาหะช่วยพายีนเข้าไป ซึ่งคล้ายกับการใช้รถลำเลียงสัมภาระเข้าไปไว้

ในที่ที่ต้องการ

• ใช้ปืนยีน (GENE GUN) ยิงยีนที่เกาะอยู่บนผิวอนุภาคของทอง ให้เข้าไปในโครโมโซมเซลล์พืช กระสุนที่ยิงเข้า

ไปเป็นทองและนำ DNA ติดกับผิวของกระสุนที่เป็นอนุภาคของทอง และยิงเข้าไปในโครโมโซมด้วยแรงเฉื่อย จะทำให้ DNA หลุดจากผิวของอนุภาคของทอง เข้าไปอยู่ในโครโมโซม ส่วนทองก็จะอยู่ภายในเนื้อเยื่อโดยไม่มีปฏิกิริยาใดๆ

พืช GMOs มีอันตรายกับมนุษย์หรือไม่

            ยังไม่มีใครกล้ายืนยันว่าการรับประทานอาหารที่มีส่วนประกอบของ GMOs นั้นมีความปลอดภัย100% เนื่องการมนุษย์มีอายุที่ยืนยาวไม่เหมือนกับสัตว์ทดลอง จึงยังไม่มีผลการการันตีว่าการรับประทานอาหารที่มีส่วนประกอบของGMOs นานๆจะไม่มีผลกับเสียกับมนุษย์  ปัจจุบันในประเทศต่างๆมีการต่อต้านการทานอาหาร GMOs เนื่องจากการใส่ยีนที่แปลกปลอมที่ไม่เคยมีมาก่อนอาจทำให้เกิดโปรตีนชนิดใหม่ที่ร่างกายไม่รู้จักและเกิดการต่อต้านซึ่งจะทำให้เกิดภูมิแพ้  นอกจากนี้ยังเป็นที่กังวลว่าการรับประทานอาหารGMOsจะทำให้ร่างกายเกิดการดื้อยาปฏิชีวนะ ในสหภาพยุโรปได้ออกกฎหมายการห้ามใช้ยาปฏิชีวนะในพืชGMOs แต่ก็ยังพบว่ามีการใช้อยู่บ้าง

สำหรับคนไทยแล้วพืช GMOs ก็นับว่ามีกระแสตอบรับทั้งต่อต้านและตอบรับ ทั้งนี้ทั้งนั้นแล้วแต่ผู้บริโภคว่ามีความต้องการอย่างไร แต่รับรองว่าการกินผักปลอดสารพิษไทยๆบ้านๆมีความปลอดภัยกับร่างกายเรามากที่สุดแน่นอน