Smart Mirror กระจกอัจฉริยะ

ชีวิตของคนในยุคปัจจุบันมีเทคโนโลยีเข้ามาเป็นส่วนที่เกี่ยวข้อง และเมื่อเข้ามาเกี่ยวแล้วสุดท้ายก็ไม่สามารถที่จะลบล้างออกไปจากชีวิตได้ นั่นเป็นเพราะว่าความสะดวกสบายที่เข้ามาในชีวิตแล้วก็ไม่สามารถเอาออกไปได้ง่ายๆเหมือนกัน
จริงๆความก้าวหน้าในการพัฒนาของโลกในยุคเราตอนนี้ คงเป็นการเอาเทคโนโลยีเข้ามาช่วยให้ชีวิตประจำวันนั้นง่ายและสะดวกมากขึ้น จะว่าไปเทคโนโลยีที่เป็นไอเทมที่สาวๆอยากได้เลยคือ Smart Mirror
ในต่างประเทศสำหรับ Smart Mirror แล้วนับว่าได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ และอร่อยๆบ้านก็ได้มีความงามกระจกอัจฉริยะไปติดตั้งภายในบ้าน ซึ่งระบบทั้งหมดของกระจกบันนี้จะเป็นการร่วมมือของ Google เพราะฉะนั้นแล้วเรื่องของฟังก์ชันต่างๆก็นับว่ามีอยู่เยอะมากทีเดียว หลักๆแล้วก็เน้นเรื่องของความเป็น Modern และความทันสมัยต่างๆ
วิธีการใช้งานก็ไม่ยากสามารถใช้ได้ 2 วิธีคือการสัมผัสหน้าจอคล้ายกับการใช้สมาร์ทโฟนตามปกติ แต่ที่พิเศษไปมากกว่านั้นคือสามารถที่จะสั่งการด้วยเสียงได้
นับว่าเป็นความสะดวกสบายสำหรับผู้หญิงเป็นอย่างมากเลยทีเดียว โดยสิ่งที่กระจกสามารถทำได้นอกเหนือจากเรื่องของการเป็นกระจกให้ส่องโดยปกติแล้ว ยังสามารถที่จะใช้ในการเช็คสภาพอากาศรวมถึงอุณหภูมิต่างๆได้ หรือแม้แต่กระทั่งการเช็คสภาพการจราจรก่อนออกจากบ้าน แล้วถ้าคิดว่านั่งพิเศษมากแล้วสิ่งที่พิเศษมากไปกว่าการเตรียมความพร้อมในการออกเดินทาง คือสามารถที่จะใช้เพื่อเล่นสื่อโซเชียลมีเดียต่างๆมากมาย โดยเฉพาะ YouTube ที่อาจจะเอาไว้ใช้ระหว่างการแต่งหน้าก็ได้
หรือถ้าบอกว่าที่พูดไปนี้จะพิเศษแล้ว สิ่งที่สามารถยืนยันได้ว่าสมัครดินเนอร์เหมาะกับบ้านที่เน้นเรื่องของการใช้เทคโนโลยี ยังเหมาะกับผู้หญิงตรงที่ว่าสามารถช่วยเรื่องของการแต่งตัวได้ ทั้งนี้จะใช้ระบบการคำนวณจากรูปร่างน้ำหนัก ส่วนสูง หลังจากนั้นจะช่วยในการออกแบบการแต่งกาย และที่สำคัญยังสามารถแนะนำได้อีกด้วยว่าเสื้อผ้าแบบไหนถึงจะเหมาะ
จะว่าไปก็ยังมีฟังก์ชั่นอื่นๆอีกมากมายที่นอกจากจะส่งเสริมทำให้กระจกนั้นทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ก็ยังช่วยเหลือในด้านต่างๆอีกแต่นอกจากนี้แล้วจะได้อะไรอีกบ้างนั้นก็คงต้องขึ้นอยู่กับประสบการณ์และการใช้งานของแต่ละคนแล้ว
แล้วถึงแม้ว่าในต่างประเทศเองก็จะได้รับความนิยม ในประเทศไทยหลายๆบ้างก็เริ่มมีการนำกระจกชนิดนี้มาติดเอาไว้ แต่ไม่ต้องกังวลเพราะไม่ได้ติดในห้องน้ำแต่บางทีอาจจะเอามาติดภายในห้องนั่งเล่นก็ได้ เพื่อที่จะสะดวกในการใช้งานมากขึ้น แต่ถ้าเป็นบ้านที่ออกแบบมาเพื่อรองรับเทคโนโลยีก็อาจจะนำมาติดบริเวณทางเข้าออกบ้านก็ได้

MASK MAP THAI เทคโนโลยีใหม่ช่วยตามหาหน้ากาก

MASK MAP THAI เป็นหนึ่งในเทคโนโลยีรุ่นใหม่ที่ตอบโจทย์ความต้องการคนยุคปัจจุบันได้มากเกินกว่าที่จะคาดเอาไว้ และที่สำคัญถูกทำขึ้นมาจากปัญหาที่พบสิ่งในสังคม งั้นมาลองทำความรู้จักกับแอพพลิเคชันหรือโปรแกรมนี้กันดีกว่า
เริ่มด้วยเรื่องของสถานการณ์ COVID-19 ที่มีการแพร่ระบาดมาตั้งแต่ปลายปี 2019 และท่าทีรุนแรงขึ้นเรื่อยๆซึ่งทำให้รายละเอียดคนนั้นมีความกังวลและไม่มั่นใจ สุดท้ายแล้วจึงเป็นการกระตุ้นทำให้เกิดการกักตุน ตั้งแต่อาหารไปจนถึงผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ หรือที่เรียกกันว่าเวชภัณฑ์
สิ่งหนึ่งที่ถูกกับตนมากที่สุด คือ หน้ากากอนามัย สุดท้ายแล้วทำให้การหาซื้อตามร้านขายยาหรือแม้แต่กระทั่งโรงพยาบาลกลายเป็นเรื่องยาก
ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อเกิดเหตุการณ์เหล่านี้ขึ้นเบื้องต้นอาจจะดูเป็นปัญหาที่ยากต่อการแก้ไข แต่ในตอนนี้มี 1 ในโปรแกรมหรือจะเรียกว่าเป็นหนึ่งในเว็บไซต์ก็ว่าได้ ที่จะช่วยในการตามหาหน้ากากอนามัยแบบใกล้ตัวไม่ต้องรอไปสั่งของไกลๆ หรือสามารถทำได้แม้กระทั่งการนัดรับหน้ากากอนามัยเหล่านี้ ฉันจะช่วยยืนยันได้จริงว่าผู้ขายนั้นมีของ และไม่ต้องกังวลเรื่องของการถูกหลอก
โดยเมื่อเปิดเข้าไปถึงนั้นสิ่งที่เห็นคือจะเป็นแผนที่ประเทศไทย ทางนี้ก็จะมีการแสดงปุ่มค้นหาตำแหน่งปัจจุบันของผู้ใช้ และเมื่อขึ้นตำแหน่งปัจจุบันแล้วก็จะมีการขึ้นร้านที่อยู่โดยรอบของตำแหน่งที่ใช้ปัจจุบัน ซึ่งจะเห็นได้เลยว่าจะมีปุ่มกลมๆหลายๆสี หน้าที่สำคัญอาจจะมีตัวเลขกำหนดเอาไว้ ในจุดนี้ก็จะมีการแสดงจำนวนของหน้ากากอนามัยที่ทางร้านมีสต๊อกไว้ขาย และนอกจากนั้นยังสามารถค้นหาราคาพร้อมกับช่องทางในการติดต่อร้านค้า
ทางนี้ก็จะมีตั้งแต่หน้ากากอนามัยแบบผ้าไปจนถึงหน้ากากอนามัยแบบที่ใช้กันในโรงพยาบาลทั่วไป จะว่าไปแล้วการใช้งาน MASK MAP THAI ก็นับว่าใช้งานได้ง่ายมากทีเดียวเพราะด้วยรูปแบบนั้นก็จะคล้ายกับ Google Map หรือแผนที่ที่มีอยู่ในโทรศัพท์เพื่อที่จะค้นหาสถานที่ต่างๆ
จะต่างกันก็แค่วัตถุประสงค์สำหรับการใช้เพื่อค้นหาหน้ากากอนามัย และสามารถที่จะเปรียบเทียบราคารวมถึงการวางแผนในการเดินทางไปซื้อด้วยก็ได้
จะว่าไปก่อนหน้านี้เป็นไอเดียที่มาจากประเทศไต้หวันเป็นประเทศแรกในการที่จะตามหาร้านเพื่อขายหน้ากากอนามัย แต่สำหรับในประเทศไทยนั้นนอกจากจะตามหาร้านที่เป็นแหล่งขายหน้ากากอนามัยแล้ว สำหรับผู้ที่มีการค้าขายต้องการที่จะขายหน้ากากอนามัย ก็สามารถที่จะลงข้อมูลสำหรับการติดต่อเอาไว้ได้
เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในเทคโนโลยีใหม่ที่ตอบสนองความต้องการและแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นจริงในยุคปัจจุบัน โดยเฉพาะในสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 พี่ดูจะเป็นเรื่องอันตรายมากทีเดียว

5G เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาบอกเลยว่าเป็นความน่าสนใจสำหรับคนรุ่นใหม่เป็นอย่างมาก เพราะเพียงแค่หันไปสนใจป่าวการเมืองหรือข่าวบันเทิงเพียงแค่ไม่กี่นาที ล่าสุดได้มีการประกาศเรื่องของเครือข่ายข้อมูล 5G ออกมาแล้ว

โดยก่อนหน้านี้เรามักจะเคยได้ยินเรื่องของการเป็นเด็กยุค 4G หรืออาจจะเป็นกลุ่มคนที่เกิดขึ้นในยุค 4G แต่ก็ไม่ได้มีความน่าสนใจอะไรมากนัก ซึ่งในความเป็นจริงยุคที่ผ่านมาที่ใช้ระบบ 4G นั้น เป็นช่วงของที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนผ่านและการพัฒนาให้เห็นอย่างชัดเจนมากที่สุด ทั้งเรื่องของการที่เราสามารถที่จะเข้าถึงช่องทางการติดต่อสื่อสารแบบหลากหลาย หรืออาจจะเป็นสิ่งที่ทำให้เราสามารถอำนวยความสะดวกมากขึ้นจากการสั่งซื้อของออนไลน์ก็ตาม

แต่สำหรับยุค 5G เมื่อพูดถึงยุคนี้แล้วก็จะมีความรู้สึกว่าเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นมาเร็วพอสมควร แต่ในความเป็นจริงแล้วกลับไม่ได้มีอะไรที่ดูแล้วแตกต่างมากไปกว่าเดิมที่ควรจะเป็นสักเท่าไหร่ นั่นก็เป็นเพราะว่าในช่วงของยุคนี้จะเน้นไปถึงเรื่องของการพัฒนาสิ่งที่มีอยู่ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

ถ้าจะมองให้เห็นยุคนี้ก็คงจะเป็นเรื่องของคอนเซปต์ที่เกิดขึ้นว่าทุกๆอย่างสามารถที่จะเชื่อมต่อกันได้หมด หรือที่เรียกว่า Anything that can be connected, will be connected

และแน่นอนว่าเป็นสิ่งที่ทำให้เกิดคำศัพท์ใหม่ๆที่เริ่มได้ยินกันแบบคุ้นหู ไม่ว่าจะเป็น Smart Home Smart car หรือแม้แต่กระทั่ง Smart City และการที่ทำให้เกิดคำพูดของนี้ได้นั้นก็เป็นเพราะความสามารถรวมถึงคุณสมบัติที่ 5G สามารถจะทำได้ดีกว่า อย่างที่เห็นว่าเมื่อเกิดเครือข่ายข้อมูลประเภทนี้ขึ้นมาและมีการทำให้เกิดความมั่นใจและว่าสามารถที่จะทำให้ทุกอย่างเชื่อมต่อกันได้หมด ดังนั้นเมื่อระดับความแรงของสัญญาณตัวนี้ดีกว่า จึงไม่ได้ส่งผลเพียงแค่นั้นแต่กลับส่งผลไปถึงเรื่องของการควบคุมและการสั่งงานที่ว่าทำได้ทันที เช่น การใช้สมาร์ทโฟนในการควบคุมเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆภายในบ้านตั้งแต่อยู่นอกบ้านไปจนถึงเข้าใช้งานภายในบ้าน

ถึงแม้ว่าสิ่งเหล่านี้จะเป็นข้อดีสำหรับการอำนวยความสะดวกที่ตอบโจทย์ในทุกๆด้านของการใช้ชีวิต แต่ในความเป็นจริงก็มีข้อเสียที่เกิดขึ้นเช่นกัน เพราะมีผลต่อเรื่องของการทำให้มนุษย์นั้นมีความขี้เกียจมากขึ้น เนื่องจากสามารถที่จะใช้ระบบเหล่านี้ในการสั่งงาน

และที่สำคัญเนื่องจากว่าจะต้องเลือกที่จะใช้คลื่นความถี่สูง และความถี่ระดับมิลลิเมตร จึงทำให้จะต้องเลือกใช้ความถี่ระดับมิลลิเมตร อาจจะต้องมีการพัฒนาตัวส่งสัญญาณ ซึ่งอาจจะเป็นการเพิ่มต้นทุน ของการส่งสัญญาณให้มากขึ้นไปอีก

Galaxy Z Flip ตั้งแต่ปี 2019 มาจนถึงตอนนี้ หลายๆอย่างเริ่มมีการแสดงออกให้เห็นแบบชัดมากขึ้น ก็คงจะเป็นเรื่องที่ว่า เทรนด์หรือความนิยมบางอย่างกัมกวงซ้ำกับไปที่เก่า

จริงๆก็สามารถดูได้หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสถานที่ท่องเที่ยว เทรนด์แฟชั่นการแต่งตัว หรือแม้แต่กระทั่งการแต่งบ้านที่บอกได้เลยว่าย้อนวัยกลับไปเกือบทุกอย่างเลยทีเดียว แต่ที่เห็นแล้วจะไม่พูดถึงก็คงไมได้ คือ โทรศัพท์มือถือ หรือที่ในตอนนี้เรียกกันติดปากว่าสมาร์ทโฟน ที่ถึงแม้ว่าจะมีการพัฒนาเทคโนโลยีหรือฟังก์ชั่นใหม่ๆเข้ามาใส่

Galaxy Z Flip เป็นหนึ่งในสมาร์โฟนรุ่นใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวในประเทศไทย แน่นอนว่าได้รับความสนใจอย่างล้นหลาม ด้วยรูปแบบของตัวเครื่องที่เป็นแบบฝาพับ ถ้ามองผ่านๆก็คงจะนึกว่าเป็นตลับแป้งของผู้หญิงทั่ว ไม่แน่ว่าบางคนอาจจะหยิบมาใช้ผิดก็ได้

ในครั้งแรกที่เห็นอาจจะเกิดความสงสัยเรื่องของกระจกที่พับได้ของตัวเครื่อง ทั้งนี้จะมีการเลือกใช้นวัตกรรมใหม่คือกระจกพับได้ ที่เรียกว่า Ultra thin glass ซึ่งเป็นกระจกที่สามารถโค้งงอและทางนี้ Samsung ใช้วิธีวิจัยและพัฒนาของตัวเองในการสร้างกระจกประเภทนี้ขึ้นมา แต่เมื่อกางออกมาเป็นตัวเครื่องแบบตรงๆจะมีขนาด 6.7 นิ้วของหน้าจอ

ซึ่งถ้าจะพูดถึงนวัตกรรมหรือฟังก์ชั่นอื่นๆที่มีอยู่ภายในตัวเครื่องนั้นก็จะมีเรื่องของการถ่ายในโหมดโดยปกติ รวมถึงอัตราส่วนสำหรับการถ่ายวิดีโอ ที่สามารถถ่ายในขณะที่พอดีกับการอัพโหลดขึ้นช่องทางต่างๆในโซเชียล

ความน่าสนใจกลับมีมากกว่านั้น คงเป็นเพราะตัวเครื่องที่สามารถขับเคลื่อนให้คล้ายกับตลับแป้งวางไว้บนโต๊ะ แต่ก็สามารถที่จะใช้งาน 2 หน้าจอไปพร้อมๆกัน ไม่ว่าหน้าจอด้านบนจะแสดงรูปภาพหรือเล่นวีดีโอต่างๆ แต่สูงของหน้าจอด้านล่างก็สามารถที่จะใช้งานแอปพลิเคชันอื่นไปได้พร้อมกัน ซึ่งเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับคนที่เน้นเรื่องของการไลฟ์สดหรือการใช้ชีวิตกับโซเชียล

โดยเฉพาะเรื่องของการถ่าย Vlog หรือวิดีโอต่างๆก็จะสะดวกมากขึ้นเพราะไม่จำเป็นที่จะต้องใช้ตากล้องแค่ใช้ตัวเครื่องพับแล้วตั้งเอาไว้

ถืออว่าในตอนนี้ก็เป็นลูกเล่นใหม่ที่น่าสนใจมากทีเดียวสำหรับสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ของ Samsung แน่นอนว่านอกจากนี้จะมีแถบหน้าจอขนาดเล็กที่เอาไว้ใหได้อ่านการแจ้งเตือนซึ่งเป็นหน้าจอขนาดเล็กที่มีอยู่หลังเครื่อง

ไม่ต้องกังวลว่าด้วยตัวเครื่องที่เป็นแบบฝาพับจะมีปัญหา เพราะว่าจริงๆแล้วสามารถที่จะเปิดปิดได้ถึง 200,000 ครั้งตลอดการใช้งาน ดังนั้นหากเปิดวันละร้อยครั้ง นับระยะเวลา 5 ปี ก็ยังสามารถที่จะเปิดได้อยู่แบบไม่ต้องกังวล

Digital Twin โลกเสมือนจริง เป็นคำที่ได้ยินกันมานานพอสมควรแล้ว แล้วบางคนก็คงจะรู้จักเทคโนโลยีนี้กันมาบ้าง แต่กลับไม่รู้ว่าจริงๆแล้วในปัจจุบันเป็นสิ่งที่ถูกพัฒนาไปจนเราน่าตกใจ

ถ้าย้อนกลับไปดูในอดีตโลกเสมือนจริงที่พูดถึงมันก็คงเป็นเพียงแค่แบบจำลองที่ถูกสร้างขึ้นด้วยมือมนุษย์และมาจากวัสดุที่เราสามารถจับต้องได้ แต่สุดท้ายแล้วรายละเอียดบางอย่างก็ไม่สามารถเก็บได้ทั้งหมดทำให้บางครั้งก็เกิดความผิดพลาดในการใช้งานจริง ในความคิดคนส่วนใหญ่มักจะเป็นแค่เรื่องของแบบอาคารหรือตัวบ้าน แต่สำหรับคำว่าโลกเสมือนจริงกับสามารถที่จะเอามาทดแทนได้สำหรับทุกอย่าง แม้แต่ในทางการแพทย์ก็สามารถเอามาใช้ได้

แต่ในยุคปัจจุบัน Digital Twin เป็นสิ่งที่เข้ามาทดแทนคำว่าโลกเสมือนจริง ที่ทำให้ดูคล้ายกับความจริงมากยิ่งขึ้นๆและสามารถที่จะเก็บรายละเอียดทั้งหมดได้

ถ้าจะให้ลองเปรียบเทียบกับเมื่อก่อนเป็นเพียงแค่แบบจำลองที่ถูกสร้างขึ้น แต่ไม่สามารถที่จะปรับเปลี่ยนหรือแก้ไขอะไรไปได้มากกว่านั้น แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่ขึ้นอยู่เป็นระบบดิจิทัล แน่นอนว่าเรื่องนี้สามารถที่จะแก้ไขปัญหาได้ อย่างเช่น ในการที่จะสร้างรถออกมา 1 คัน ไม่จำเป็นที่จะต้องรอแบบจำลองอีกต่อไป เพราะในความเป็นจริงนั้นสามารถที่จะใช้ระบบที่พูดถึงจำลองโดยการใส่ชิ้นส่วนต่างๆเข้าไปรวมถึงการมองเห็นลวดลายที่ชัดเจน หรือถ้าจะเปรียบเทียบกันกับการผ่าตัดของแพทย์ที่บางครั้งการลงมือจริงก็อาจจะทำให้เกิดความเสี่ยงและข้อผิดพลาด แต่ถ้าเลือกใช้ระบบนี้ก็จะรับรู้ได้เลยว่ามีจุดไหนที่เป็นความเสี่ยงบ้าง

การทำธุรกิจในปัจจุบันจึงให้ความสำคัญกับ Digital Twin กันเป็นจำนวนมาก เพราะอย่างน้อยการช่วยลดข้อผิดพลาดก็จะช่วยลดความเสี่ยงในการลงทุน

ที่เห็นสำหรับระบบนี้ไม่ใช่แค่การสร้างแบบจำลองให้เห็นในคอมพิวเตอร์เพียงอย่างเดียว เพราะสามารถที่จะใช้ระบบเครื่องพิมพ์ 3 มิติในการที่จะสร้างวัตถุเสมือนให้ออกมาในขณะย่อมแต่ก็สามารถเก็บรายละเอียดต่างๆให้ครบถ้วน

หรือแม้แต่การเลือกใช้เทคโนโลยีเซ็นเซอร์เข้ามาช่วยในการเก็บรวบรวมข้อมูลทั้งหมดที่อาจจะจำเป็นต่อการทำต้นแบบของสิ่งเหล่านั้น

ในเรื่องของประสิทธิภาพที่สูงถึงขนาดนี้แต่ไม่ใช่ว่าธุรกิจในปัจจุบันจะเริ่มให้ความสำคัญหรือเริ่มที่จะเอามาใช้ แต่แนะนำว่าหากแบนหรือผลิตภัณฑ์ไหนที่ต้องการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ก็ถือว่าเป็นการเลือกเอามาใช้เพื่อให้เกิดข้อได้เปรียบ

ไม่ใช่ว่าทุกธุรกิจจะสามารถหยิบเอามาใช้ได้หมด เพราะบางธุรกิจเรียกได้ว่าไม่ได้มีความจำเป็นที่จะต้องหยิบเอาเทคโนโลยีที่ว่ามาใช้ เนื่องจากเป็นการเปลืองงบประมาณมากเกินไป

ครั้งนี้เราก็มีเทรนที่ถูกอัพเดทในปี 2020 เกี่ยวกับเรื่องของ เทคโนโลยี ที่กำลังจะได้รับความนิยมและน่าจับตามองมากที่สุดในปีนี้ โดยมีการรวมเอาไว้ให้ได้ทำความรู้จักกันในที่นี้

1.Multiexperience

หนึ่งในเทคโนโลยีสำคัญสำหรับปี 2020 ที่โดยทั่วไปแล้วอาจจะมีกันมานาน แต่หากว่าจะนับจากนี้ไปอีก 10 ปีบอกได้เลยว่าเทคโนโลยีประเภทนี้จะทำให้การใช้ชีวิตหรือการดำเนินชีวิตของคนในยุคปัจจุบันนั้นมีการก้าวกระโดดมากขึ้น ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะมีความเกี่ยวข้องกับการรับรู้และการทำให้ผู้ใช้งานนั้นสามารถที่จะเข้ามาสัมผัสกับโลกดิจิตอลได้มากขึ้น ซึ่งรูปแบบนี้ถ้าหากจะให้ผู้โดยตรงก็คือการตอบโต้การหารทางโลกดิจิตอลระหว่างผู้ใช้แต่ละคน และในปัจจุบันนี้ที่เราเริ่มรู้จักกันก็คือ VR และ AR ซึ่งแน่นอนว่าในเริ่มแรกที่เราเริ่มรู้จักเทคโนโลยีประเภทนี้ก็จะอยู่ในประเภทของเกมที่ถูกทำขึ้นมาให้มีความเสมือนจริงมากขึ้น แต่ในยุคปัจจุบันนั้นกลับมีการนำมาปรับใช้และทำให้เกิดการพัฒนากับการศึกษามากขึ้น

จึงทำให้การศึกษาในยุคปัจจุบันนั้นมีประสิทธิภาพมากขึ้นและเด็กส่วนใหญ่นั้นได้มีการเข้าถึงเนื้อหาหรือความรู้แบบละเอียดลึกซึ้งจากการที่ได้สัมผัสด้วยการมองเห็นแบบใกล้ชิด

2.Transparency and Traceability

แต่ถ้าหากว่าจะพูดถึงเทคโนโลยีที่มีความสำคัญต่อองค์กรหรืออาจจะเป็นระบบบริษัทต่างๆ เทคโนโลยีประเภทหมูเป็นอีก 1 ถึง 2 คันเลยทีเดียวที่แนวโน้มในอนาคตตั้งแต่ปี 2020 เป็นต้นไปจะถูกพัฒนาให้มีความรักกลุ่มและรอบคอบมากขึ้น เพราะเป็นรูปแบบเทคโนโลยีที่มีความเกี่ยวข้องต่อการตรวจสอบและช่วยสร้างความโปร่งใสให้กับการทำงานของบริษัทหรือองค์กรต่างๆ ทางนี้จะเป็นส่วนสำคัญเลยทีเดียวที่จะแสดงให้เห็นถึงจริยธรรมทางด้านระบบดิจิตอลหรือโลกอินเทอร์เน็ตมากขึ้นสำหรับองค์กรใหญ่ๆ

แน่นอนว่าจะเป็นรูปแบบที่ทำให้ผู้บริโภคทั่วไปนั้นสามารถที่จะไว้วางใจในเรื่องของระบบและตัวองค์กรได้เพราะสามารถที่จะใช้เทคโนโลยีนี้มาเป็นตัวช่วยในการรองรับและช่วยในการปกป้องข้อมูลส่วนตัวของผู้ที่เข้ามาใช้บริการ ที่สำคัญยังเป็นผลกระทบจากครรภ์สำหรับการสร้างความน่าเชื่อถือให้มากขึ้น

โดยทั่วไปแล้วเราก็คงจะไม่ค่อยได้รู้จักกับเทคโนโลยีประเภทนี้สักเท่าไหร่แต่ถือว่าเป็น 2 เทรนด์โดยอีที่กำลังเป็นที่น่าจับตามองอยู่ในขณะนี้

แน่นอนว่านี่ก็คงจะเป็นเหมือนกับโอกาสในการสร้างรายได้หรือสร้างอาชีพถ้าหากรู้จักนำสิ่งเหล่านี้ไปปรับใช้ให้มากขึ้น และคงจะเป็นช่องทางที่ช่วยพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆอีกด้วย