มะเร็งท่อน้ำดี พบมากในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทยจากการวิจัยพบว่าจังหวัดที่พบผู้ป่วยโรคมะเร็งท่อน้ำดีมากที่สุดคือจังหวัดอุดรธานี โดยพบในเพศชาย133.4 ต่อประชากรหนึ่งแสนคน และ พบในเพศหญิง49.8 ต่อประชากรแสนคน จากตัวเลขเหล่านี้ทำให้มีการวิจัยถึงความสัมพันธ์ของมะเร็งท่อน้ำดีกับปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ซึ่งพบว่าปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดมะเร็งท่อน้ำดีนั้นมาจากพยาธิใบไม้ตับ ที่ตัวเต็มวัยอาศัยอยู่ในท่อน้ำดีของคน สุนัข และ แมว ซึ่งพยาธิใบไม้ตับนี้ จัดว่าเป็นปรสิตที่ก่อมะเร็งโดยคนได้รับพยาธิใบไม้ตับจากการกินปลาดิบที่มีตัวอ่อนระยะติดต่อของพยาธิตัวอ่อนจะเคลื่อนจากลำไส้ไปที่ท่อน้ำดีและพัฒนาเป็นตัวเต็มวัยอาศัยอยู่ในท่อน้ำดีและออกไข่ปะปนมากับอุจจาระลงสู่แหล่งน้ำตัวอ่อนจะไชออกจากไข่เข้าสู่หอยซึ่งจะพัฒนาเป็นตัวอ่อนระยะแรกซึ่งจะไชเข้าปลาเพื่อพัฒนาเป็นตัวอ่อนระยะติดต่อเข้าสู่คน และเมื่อพยาธิใบไม้ตับโตเต็มวัยจะใช้suckerดูดเกาะที่ผนังของท่อน้ำดีทำให้เกิดการรายคายเคือง ปลาที่พบว่ามีพยาธิใบไม้ตับส่วนใหญ่จะเป็นปลาน้ำจืด เช่น ปลาขาว ปลาสร้อย ปลาตะเพียน เป็นต้น
จากการศึกษาวิจัยพบว่าอุบัติการณ์ของมะเร็งท่อน้ำดีมีความสอดคล้องกับการระบาดของพยาธิใบไม้ตับโดยมีความเสี่ยงเพิ่มมากขึ้นตามความหนาแน่นของไข่พยาธิที่ตรวจพบจากการวิจัยพบว่าผู้ที่ตรวจพบว่ามีพยาธิใบไม้ตับมากกว่า120ตัวจะมีความเสี่ยงเป็นโรคมะเร็งท่อน้ำดีมากกว่าผู้ที่ไม่ตรวจพบประมาณ 14 เท่า
เมื่อพยาธิใบไม้ตับไปเกาะที่ผนังท่อน้ำดีจะทำให้ผนังท่อน้ำดีเกิดการอักเสบเรื้อรัง ซึ่งจะไปทำลายระบบควบคุมการดำรงชีพปกติของเซลล์เยื่อบุท่อน้ำดี ดังนั้นการติดเชื้อพยาธิใบไม้ตับบ่อยๆจึงทำให้เพิ่มความเสี่ยงของการเป็นโรคมะเร็งท่อน้ำดีได้ นอกจากพยาธิใบไม้ตับแล้วยังมีสาเหตุอื่นที่ทำให้เกิดโรคมะเร็งท่อน้ำดีได้ คือ การได้รับสารก่อมะเร็งในกลุ่มไนโตรซามีน ซึ่งเกิดจากการใช้ไนเตรทหรือดินประสิว ในขบวนการถนอมอาหารประเภทเนื้อสัตว์ พบได้มากในอาหารเช่น ปลาร้า ปลาเค็ม ไส้กรอก แหนมและกุนเชียง
ดังนั้นการป้องกันมะเร็งท่อน้ำดีที่ดีที่สุดคือ การเลิกรับประทานปลาดิบและอาหารที่ใช้ไนเตรทในการถนอมอาหาร ในแต่ละปียังพบผู้ป่วยด้วยโรคมะเร็งท่อน้ำดีอย่างต่อเนื่องและมีผู้มีเสียชีวิตจำนวนมากในแต่ละปี ขอเตือนว่าอย่านิ่งนอนใจไปเนื่องจากพยาธิใบไม้ตับนั้นสามารถอยู่ในร่างกายมนุษย์ได้นาน10-25ปีเลยทีเดียว